คาร์ล ฟรอช ตัดสินใจประกาศอำลาวงการมวยอย่างเป็นทางการ เผยไม่มีอะไรต้องพิสูจน์อีกแล้ว กับรางวัลแชมป์โลกถึง 4 สมัย

“ไอ้งูเห่า” ไม่ได้สู้กับใครเลย ตั้งแต่ปีที่แล้วที่เอาชนะ จอร์จ โกรฟส์ คว้าเข็มขัด ดับเบิ้ลยูบีเอ และ ไอบีเอฟ รุ่น ซุปเปอร์-มิดเดิ้ลเวท ไปครอง ณ สนาม เวมบลีย์

ด้วยชัยชนะดังกล่าว ทำให้เขาคว้าชัยเป็นนัดที่ 33 จาก 35 ไฟต์ในอาชีพ โดยนักชกผู้ดีผ่านสังเวียนกับยอดมวยในรุ่นเดียวกันมาตลอดชีวิตการชกมวยสากลอาชีพ 13 ปี

ฟรอช แพ้ไปเพียง 2 ครั้งในอาชีพนักชก เป็นการแพ้ให้กับ มิกเกล เคสเลอร์ ในปี 2010 และ อังเดร วอร์ด ในปี 2011

ทว่านักชกวัย 38 ปี ก็สามารถกลับมาล้างแค้น เคสเลอร์ ได้ในปี 2013 และมีไฟต์โด่งดังในการเอาชนะ เจเมน เทย์เลอร์ ลูเซียน บูต และ ชอน ปาสคาล

ฟรอช เคยพูดไว้ว่า ก่อนที่จะแขวนนวม เขาอยากจะชกครั้งสุดท้ายที่ ลาส เวกัส สักครั้ง และ ไฟต์สุดท้ายก็ถูกจัดขึ้น เป็นการพบการยอดมวยจากเม็กซิโก ฮูลิโอ ซีซ่าร์ ชาเวซ ในเดือนมีนาคม แต่ก็ต้องยกเลิกไป ด้วยอาการบาดเจ็บที่บริเวณข้อศอก

รวมไปถึงการพูดคุยเพื่อนจัดไฟต์กับ เบอร์นาร์ด ฮอปกิ้นส์ และ เกนนาดี้ โกลอฟกิ้น นักชกชาวคาซัคสถาน ก็ไม่อาจทำให้ไฟต์สุดท้ายเกิดขึ้นจริงๆ ฟรอชจึงตัดสินใจแขวนนวมอย่างเป็นทางการ

“มันไม่ใช่การตัดสินที่ง่ายแต่ก็ไม่ยากอย่างที่ใครๆคิด” เขากล่าวผ่านทาง บีบีซี เรดิโอ 5

“ผมกำลังจะอายุ 38 ในอาทิตย์หน้า ข้อต่อและกระดูกของผมปวดไปหมด แต่หากแรงปรารถนายังมี ผมอาจจะชกได้อีกครั้ง แต่ตอนนี้ไม่มีอะไรจูงใจผมแล้ว”

“ผมไม่มีอะไรต้องพิสูจน์อีกต่อไป และผลงานของผมก็บอกด้วยตัวมันเอง ผมภูมิใจอย่างมาก สำหรับสิ่งที่ผมได้รับในวงการมวยนี้ แตตอนนี้ถึงเวลาแล้ว ที่ผมต้องแขวนนวม”