เชลซี ได้ออกมาประกาศให้แฟนๆ ได้รับรู้อย่างเป็นทางการหลังจากตกลงสัญญาคว้าตัว มาเตโอ โควาเซวิช มิดฟิลด์ทีมชาติโครเอเชีย มาร่วมทีมได้แบบถาวรด้วยสัญญา 5 ปี จากราชัญชุดขาว เรอัล มาดริด
กองกลางชาวโครเอเชียได้ถูกสิงห์บลูเชลซีดึงตัวมาร่วมทีมด้วยสัญญายืมตัวเมื่อช่วงฤดูกาลที่ผ่านมาจากเรอัล มาดริด ยักษ์ใหญ่แห่งลาลีก้า สเปน และสามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับ เป็นหนึ่งในตัวผู้เล่นที่ช่วยพาทีมประสบความสำเร็จด้วยการไต่ระดับจนมาจบอันดับที่ 3 ของตารางพรีเมียร์ลีกปาดหน้าท็อตแนม ฮอตสเปอร์ คว้าตั๋วไปแข่งแชมเปี้ยนส์ลีก ฤดู
กาลหน้าแบบสบายๆ แถมยังคว้าแชมป์ยูโรป้า ลีกมาครองได้สำเร็จอีกด้วย
โดยล่าสุดเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาเชลซีได้ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการต่อหน้าแฟนบอลของทีมว่า ได้ทำการคว้าตัวมาเตโอ โควาเซวิช มาร่วมเรียบร้อยแล้วด้วยสัญญาแบบถาวร 5 ปี รวมถึงทางด้านราชัญชุดขาว เรอัล มาดริด ก็ได้ออกแถลงการณ์ขอบคุณต่อกองกลางฝีเท้าเด็ดรายนี้กับความทุ่มเทที่ผ่านมากับสโมสร ซึ่งถือเป็นการจากลาจากทีมเก่าได้อย่าง
สวยงาม พร้อมเดินหน้าลุยช่วยต้นสังกัดใหม่แบบเต็มตัวในการสร้างผลงานให้ยอดเยี่ยมยิ่งขึ้นในรายการพรีเมียร์ลีกฤดูกาลหน้า รวมถึงแชมเปี้ยนส์ลีกอีกด้วย
หลังจากมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการโควาซิช ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อหลังของเชลซีว่า “ผมสนุกมากกับฤดูกาลที่ผ่านมา ที่ได้มีโอกาสลงเล่นกับเชลซี แม้จะเป็นแค่สัญญายืมตัวก็ตาม ผมรู้สึกสบายใจมากกับสโมสรและผมเองก็ชอบการใช้ชีวิตในกรุงลอนดอน รวมไปถึงการเล่นในพรีเมียร์ลีก ตอนนี้ผมมีความสุขแบบสุดๆ ที่จะได้ลงเล่นให้กับเชลซีใน
สัญญาการซื้อขายแบบถาวร” มิดฟิลด์วัย 25 ปีกล่าว
“เรามีฤดูกาลที่ประสบความสำเร็จร่วมกันด้วยการคว้าถ้วยแชมป์ยูโรป้า ลีก และผมก็หวังว่าเราจะทำผลงานได้ดียิ่งขึ้นกับฤดูกาลที่กำลังจะมาถึง”
สำหรับประวัติโดยสังเขปของมาเตโอ โควาซิช นั้น เขาเกิดที่กรุงลินซ์ ประเทศออสเตรีย แต่ถือสัญชาติโครเอเชีย โดยเขาเริ่มเส้นทางในวงการฟุตบอลจากระดับเยาวชนก่อนที่สถาบันสอนนักเตะ แอลเอเอสเค ลินซ์ ที่ออสเตรีย ตั้งปต่ปี 2000 – 2007 โดยได้เพาะผมฝึงแท็คติกสร้างประสบการณ์อยู่ถึง 7 ปีก่อนที่ดินาโม ซาเกร็บ สโมสรยักษ์ใหญ่ของ
โครเอเชียจะเห็นแววและดึงตัวเขามาเข้าร่วมทีมเยาวชนในปี 2007 – 2010 จนกระทั่งช่วงเดือนตุลาคม ปี 2010 กุนซือของดินาโม ซาเกร็บ ในขณะนั้นอย่างวาฮิด ฮาลิโลซิช จะให้โอกาสเขาได้ก้าวขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ ซึ่งเริ่มต้นนัดแรกในการลงเตะกับคู่แข่งร่วมลีกอย่างเฮอร์วาสต์สกี้ ดราโกโวลยัค ซึ่งในนัดนั้นเขาสามารถยิงประตูให้กับทีมได้อีกด้วย
สถิติการลงสนามของเขากับดินาโม ซาเกร็บ นั้นเขาลงไปทั้งสิ้น 43 นัดและยิงประตูได้ 7 ลูกจนกระทั่งในปี 2013 เริ่มมีหลายทีมให้ความสนใจใสตัวเขาไม่ว่าจะเป็น อาแจ็ก, อินเตอร์ มิลาน, ยูเวนตุส หรือบาเยิร์น มิวนิค ก่อนที่จะเป็นทางอินเตอร์ มิลาน ที่ได้เซ็นต์สัญญคว้าตัวเขาไปร่วมทัพในปี 2013 ซึ่งช่วง 2 ฤดูกาลตั้งแต่ 2013 – 2015 กับ อินเตอร์
มิลาน นั้นเขาถือเป็นตัวหลักของทีมโดยลงสนามไปถึง 80 นัด ยิงได้ 5 ประตู และเรอัล มาดริดก็สนใจที่จะดึงตัวมิดฟิลด์จอมบุกรายนี้ไปร่วมทัพ และในปี 2015 เขาก็ได้จรดปากกาเซ็นต์สัญญากับเรอัล มาดริด ยาวจนถึง ปี 2019 ซึ่งเขาลงสนามไปทั้งสิ้น 73 นัดและผลงานยิงได้ 1 ประตู ก่อนที่จะถูกเชลซียืมตัวมาใช้งานในฤดูกาลที่ผ่านมาและโชว์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมจนเชลซีนั้นต้องขอเจรจาซื้อขายโควาซิชมาร่วมทีมด้วยสัญญาแบบถาวร
สำหรับผลงานในระดับทีมชาตินั้นเขาติดทีมชาติโครเอเชียชุดเยาวชนมาทุกชุด จนกระทั่งปี 2013 ก็ได้โอกาสติดทีมชาติโครเอเชียชุดใหญ่ซึ่งสไตล์การเล่นของเขานั้นสามารถทดแทนผู้เล่นตำนานของโครเอเชียอย่างอ็อกเยน วูโกเยวิช ได้อย่างดี จนมีชื่อติดทีมชาติโครเอเชียไปลุยศึกฟุตบอลโลก 2014 ที่บราซิล จากนั้นก็ติดทีมชาติชุดใหญ่เรื่อยมาจนได้เป็นส่วนหนึ่งของโครเอเชีย ชุดที่คว้ารองแชมป์ฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซียที่ผ่านมาด้วยเช่นกัน
โดยสไตล์การเล่นของโควาซิชนั้นจะออกแนวบู๊เนื่องจากเป็นมิดฟิลด์ตัวรุกที่เดินเกมส์ได้อย่างชาญฉลาด ดังนั้นในฤดูกาล 2019-20 ที่กำลังจะมาถึงนี้ มาเตโอ โควาซิช น่าจะได้เป็นตัวหลักของเชลซีในการสร้างผลงานที่ดีต่อไป
Dafabet เปิดเดิมพันล่วงหน้า/สด ค่าน้ำสูง ที่กีฬาเอเชีย
ลิงค์สำรอง ดาฟาเบท