เปรู ทีมนอกสายตาที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะทยานเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศศึกโคป้า อเมริกา 2019 ได้ สร้างประวัติศาสตร์และเซอร์ไพรส์ได้สำเร็จเมื่อโชว์ผลงานยอดเยี่ยมถล่มแชมป์เก่าชิลีขาดลอย 3-0 ปาดหน้าเข้าชิงกับแซมบ้า บราซิล
ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งทวีปอเมริกาใต้รายการใหญ่อย่าง โคป้า อเมริกา 2019 รอบรองชนะเลิศคู่ระหว่าง ชิลี แชมป์เก่า และ แชมป์ 2 สมัยซ้อน ลงสนามพบกับ เปรู ทีมม้ามืดที่ทะลุเข้ามาถึงรอบรองชนะเลิศได้อย่างเหนือความคาดหมาย หลังปราบอุรุกวัย อีก 1 เต็งแชมป์มาได้ด้วยการเฉือนเอาชนะจุดโทษในรอบก่อนรองชนะเลิศ ส่วนทางชิลีนั้นก็ชนะโคลอมเบียมาได้ด้วยการดวลจุดโทษเช่นกัน
เกมส์ในสำคัญนัดนี้ เรนัลโด้ รูเอด้า กุนซือของชิลี จัดเต็มขนทัพนักเตะลงสนามแบบชุดใหญ่โดยยึดแผนการเล่นเดิม 4-3-3 ตามถนัดและตัวผู้เล่นนั้นก็ยังคงส่งชุดเดิมที่ปราบโคลอมเบียลงสนามนำโดย 3 กองหน้า ได้แก่ ซุปเปอร์สตาร์ดาวยิง อเล็กซิส ซานเชส จากแมนฯยูไนเต็ด, เอดูอาร์โด้ บาร์กัส จากทีมยูเอเอ็นแอล ในลีกเม็กซิโก และ โฆเซ่ เปโดร ฟูเอน
ซาลิด้า จอมเก๋าสารพัดประโยชน์จากอูนิแบร์ซิดาด คาโตลิก้า 3 แผงมิดฟิลด์ปั้นเกมส์ ได้แก่ อาร์ตูโร่ บิดาล จากบาร์เซโลนา, เอริก ปุลก้า จากโบโลญญ่า และ ชาร์เลส อารานกูอิส จากเลเวอร์คูเซ่น ส่วนแผงกองหลังนั้นแบ๊คซ้ายคือ
ฌอน โบเซชูร์ จากอูนิเบร์ซิดาด เด ชิลี, แบ๊คขวา เมาริซิโอ้ อิสลา จากเฟเนร์บาห์เช่, 2 เซ็นเตอร์ แกรี่ เมดัล จากเบซิกตัส และ กิลแญโม่ มาริปัน จากอลาเบส ส่วนนายทวารคือ กาเบรียล อาริอาส จากราซิ่ง คลับ
ส่วนทางด้านเปรู กุนซืออย่างริคาร์โด้ กาเรก้า ก็ส่งขุมกำลังลงสนามชุดเดิมจากนัดที่เอาชนะอุรุกวัย และใช้แผนการเบ่นเดิมคือ 4-2-3-1 นำโดยกองหน้าตัวเป๋าจอมเก๋า เปาโล เกร์เรโร่ จาก อินเตอร์นาซิอองนาล ในลีกบราซิล, 3 ตัวบุก นำโดย เอดินสัน ฟลอเรส จากโมเรเลีย ในลีกเม็กซิโก, คริสเตียน คูเอบ้า จากซานโตส และ อันเดร การินโญ่ จากอัล-ฮิลาล 2
กองกลางตัวปั้นเกมส์ได้แก่ โยชิมาร์ โยตุน จากครูซ อาซูล และ เรนาโต่ ตาเปีย จากวิลเล่ม ทเว ส่วนแผงกองหลังนั้นส่งแบ๊คซ้าย มิเกล ตราอูโก้ จากฟลาเมงโก้, แบ๊คขวา หลุยส์ อัดบินกูลา จากรายา บาเญกาโน่, 2 เซ็นเตอร์ หลุยส์ อับรัม จากเบเลส ซารส์ฟิลด์ และ คาร์ลอส ซามบราโน่ จากบาเซิล ส่วนผู้รักษาประตูนั้นคือ เปโดร กันเญเซ่ จากอลิอันซ่า ลิม่า ลงเฝ้าเสา
รูปเกมส์ในนัดนี้นับตั้งแต่เริ่มนั้นเป็นฝ่ายชิลีที่แทบจะพับสนามบุกโดยเป็นฝ่ายครองบอลได้มากกว่าถึง 66% แถมยังมีโอกาสยิงมากกว่าครึ่งของโอกาสที่เปรูมีถึง 19 ครั้ง แต่ไม่สามารถเจาะแนวรับและการประสานงานทีมเวิร์คอันแข็งแกร่งของเปรูไปได้เลยแม้แต่ลูกเดียว แม้ว่าชิลีนั้นจะส่งดาวยิงซุปตาร์ลงสนามแล้วก็ตาม ส่วนทางด้านเปรูแม้ว่าโอกาสในการ
ครองบอลจะน้อยกว่า โอกาสในการยิงประตูก็น้อยกว่าเพียง 9 ครั้ง ตลอดทั้งเกมส์ แต่น่าทึ่งตรงที่ เหล้านักเตะเปรูนั้นผสานกำลังต่อบอลกันได้อย่างแม่นยำในทุกครั้งที่มีโอกาส และในนาทีที่ 21 เอดินสัน ฟลอเรส ก็ยิงประตูให้เปรูออกนำ ถัดมาในนาทีที่ 38 ก่อนหมดครึ่งเวลาแรกโยชิมาร์ โยตุน ก็มาซัดประตูที่ 2 ให้เปรูนำห่าง 2-0 ได้อีก จากนั้นเกมส์ในครึ่ง
หลังชิลีแทบจะพับสนามบุกอยู่ฝ่ายเดียว แต่เปรูวางเกมส์มาดีล็อคตัวยิงของชิลีได้อยู่หมัด และช่วงทดเวลาบาดเจ็บเปาโล เกร์เรโร่ ก็ไม่ยอมน้อยหน้าน้องๆ ในทีม กดประตูชัยตอกย้ำชัยชนะให้เปรูได้สำเร็จด้วยสกอร์ 3-0 แบบที่อึ้งกันไปทั่วทั้งทวีป ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเป็นเปรูที่สามารถทะลุเข้าสู่รอบชิงได้
โดยการเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศครั้งนี้ถือเป็นประวัติศาสตร์ของชาติเนื่องจากครั้งล่าสุดที่เปรูทำได้นั้นต้องย้อนไปถึงปี 1975 ที่ในปีนั้นเปรูผงาดคว้าแชมป์ไปครองได้ อีกทั้งก่อนหน้านี้เปรูนั้นแทบจะหมดหนทางในการเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศแล้ว เนื่องจากรอบแบ่งกลุ่มนั้นโดนบราซิลถล่มเละเทะไปถึง 0-5 จนไม่มีใครคิดว่าเปรูจะกลับมาฮึดสู้ได้
สำหรับรอบชิงชนะเลิศนั้นจะมีขึ้นในช่วงเช้าวันที่ 8 ก.ค. นี้ ซึ่งอัตราต่อรองที่เปรูจะชนะนั้นอยู่ที่ 10.81 ส่วนอัตราต่อรองของบราซิลที่จะคว้าชัยอยู่ที่ 1.34 ส่วนผลเสมอใน 90 นาทีนั้นอยู่ที่ 5.03
Dafabet เปิดเดิมพันล่วงหน้า/สด ค่าน้ำสูง ที่กีฬาเอเชีย การันตีเงินชนะ 100%
ลิงค์สำรอง ดาฟาเบท