ไคเรน วิลสัน เป็นผู้นำในสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นการเผชิญหน้าที่ทรหดระหว่างเขากับแกรี่ วิลสัน ฝ่ายหลังได้เข้ามาเล่นในรายการมาสเตอร์สเพียง 11 ชั่วโมงหลังจากได้รับการยืนยันว่า แจ็ค ลิซอฟสกี ติดโควิด-19 ลิซอฟสกีเริ่มกักตัวทันทีและไม่สามารถอยู่ในการแข่งขันได้เปิดทางให้ แกรี่ วิลสัน เข้ามาเล่นแทน

อย่างไรก็ตามแกรี่ต้องตกรอบไปหลังจากไคเรนเอาชนะไปได้ 6-2 ผ่านเข้าสู่รอบ 8 คนสุดท้ายรายการมาสเตอร์ส ทั้งคู่เริ่มต้นเกมได้น่าประทับใจทั้งคู่ยืนหยัดต่อสู้กันจนเกือบเหมือนที่เคยเจอกันมาในรายการ UK Championship 2014 ที่จบด้วยสกอร์ 6-5 เฟรม

สี่เฟรมแรกผลัดกันรุกรับสูสีโดยแต่ละคนแสดงความกระหายที่จะผ่านเข้าสู่รอบ 8 คนสุดท้ายของมาสเตอร์ส อย่างไรก็ตามในไม่ช้าไคเรนก็เปลี่ยนสิ่งต่างๆเล็กน้อยและเริ่มหายใจรดต้นคอคู่แข่ง ผลก็คือเขาคว้าชัยชนะสี่เฟรมติดต่อกันซิวตั๋วรอบ 8 คนรอพบกับ เดวิด กิลเบิร์ต หรือ โจ เพอร์รี่ คนใดคนหนึ่ง

แม้ว่าทั้งสองคนจะแทงได้อย่างสูสีในช่วงแรกของเกม แต่ไคเรนเป็นคนที่แทงได้น่าตื่นเต้นที่สุด อันที่จริงเขาตบแดงยาวชนิดที่เฟาด์สเรียกมันว่าเป็นช็อตแห่งแชมเปี้ยน

นีล เฟาด์ส กล่าวว่า : “อาจจะเป็นช็อตแห่งแชมป์ตั้งแต่ลูกแรกที่เขาตบลงแล้ว” เฟาด์สยังคงยกย่องการแทงโดยกล่าวว่า : “มันใสสะอาดมากๆ เขายิงได้ดีจริงๆ”

อย่างที่ควรจะเป็น แกรี่ วิลสัน รู้สึกไม่สะทกสะท้านกับช็อตที่น่าทึ่งนั้นหรือการแพ้ในเฟรมแรกและแสดงให้เห็นว่าตัวเองคู่ควรกับการได้เล่นในมาสเตอร์สด้วยชนะเฟรมที่สอง เฟรมที่สามกระท่อนกระแท่นแต่เป็น แกรี่ วิลสัน ที่แสดงให้เห็นพลังที่เหนือกว่าในการขึ้นนำ

ไคเรนตอบโต้กลับอย่างมีสไตล์ ทำเซนจูรี่แรกของค่ำคืน นี่เพียงพอที่จะทำให้จังหวะของแกรี่ลดลงหรืออะไรประมาณนั้น เขาแสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอในเฟรมที่ 5 และวิลสันคว้าโอกาสขึ้นนำเป็น 3-2 ไคเรนเดินหน้าเก็บชัยอย่างแข็งแกร่งต่อจากนั้นจนกระทั่งเขาชนะขาด 6-2