พอล ดิ เรสต้า หมดความหวัง ตั้งใจทำผลงานเต็มที่ในศึกสิงคโปร์ กรังด์ ปรีซ์ ทั้งยังไม่รู้ชะตากรรมตัวเองในการแข่งขันรถสูตรหนึ่ง หรือ ฟอร์มูล่าวัน ในฤดูกาล 2013 นี้

นักขับจากทีม ฟอซ อินเดีย วัย 27 ปีรายนี้ ปัจจุบันกำลังได้รับความทุกข์ทรมาน ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งอย่างที่เลวร้ายที่สุดของเขาในวงการกีฬานี้ หลังจากที่ได้รับความล้มเหลวมา 4 ครั้งในช่วง 2 ปีแรกและ 4 ฤดูกาลในอาชีพของเขา และขณะนี้เหลือเพียงการแข่งขันอีก 3 รายการเท่านั้น

รถของ ดิ รอสต้า เจอกับปัญหาไฮโดรลิคในรอบที่ 4 ในการแข่งขันที่ ฮังการี ก่อนที่ วิลเลี่ยม พาสเตอร์ มัลโดนาโด้ จะออกจากการแข่งขันในรอบที่ 27 ที่เบลเยี่ยม กรังด์ปรีซ์ ขณะที่การแข่งขันที่อิตาลีขณะ

การออกสตาร์ทไม่กี่วินาทีเขาก็เกิดเหตุชนกับรถคู่แข่ง ต้องออกจากการแข่งขันอีกครั้ง

นับว่าเป็นหนทางที่ยาวไกลมากจากการเริ่มต้นของฤดูกาล เมื่อ ดิ เรสต้า คว้าคะแนนมาได้ใน 7 สนามจากการแข่งขันใน 8 รอบ กับการเปลี่ยนยางของ ปิเรลลี่ ก็ปลุกความหวังขึ้นมาได้ในศึกบริติส กรังด์ ปรีซ์ ในช่วงสิ้นเดือนมิถุนายน

ตั้งแต่การปรับเปลี่ยน เพื่อนร่วมทีมของเขาอย่าง เอเดรียน ซูติล ก็จบในตำแหน่งที่ 9 ที่เบลเยี่ยม ซึ่งถือว่าเป็นตำแหน่งที่ดีที่สุดที่ฟอซ อินเดียทำได้

โดย ดิ เรสต้า ต้องการที่จะหยุดการทำงานที่เลวร้ายนี้ และเพิ่มโอกาสที่จะทำให้ฟอซ อินเดีย เก็บเขาไว้ใช้บริการในปี 2014 หรือ มองหาทีมใหม่ โดยการทำผลงานที่ดีในรายการที่สิงคโปร์ ในวันอาทิตย์นี้

ดิ เรสต้า จบการแข่งขันในปีที่แล้วด้วยผลงานที่ดี โดยได้อันดับ 4 เมื่อปีที่แล้ว ที่ มารินา เบย์ สตรีท กล่าวว่า “นี่เป็นเวลาที่สำคัญสำหรับคนที่จะตัดสินใจ และ สำหรับผมที่จะรักษาความปลอดภัยในอนาคต ไม่ว่าจะทีไหน อาจเป็นไปได้ ไม่ว่าที่นี่ หรือที่อื่น ๆ ”

“ด้วยความเคารพต่อ ฟอซอินเดีย มันเป็นเรื่องความเข้าใจในเครื่องมือที่คุณมีและทำในสิ่งที่คุณสามารถทำร่วมกับทีมได้”

“ผมอยากจะคิดว่า ผมมีชื่อเสียงพอ และผมได้แสดงให้ทีมเห็นถึงเครื่องมือและการขับ และเมื่อเราทำงานร่วมกัน เรามีความแข็งแกร่งไปพร้อม ๆ กัน”

ขณะที่การแข่งขันที่สิงคโปร์ เขากล่าวว่า “มันเป็นสิ่งที่หมุนอยู่รอบ ๆ ตัวเราอย่างเร็วมาก ซึ่งมันสามารถหันไปทางอื่น กับวิธีการอื่นได้”

“เราจะทำงานต่อไป ตราบใดที่เราทำ 100 เปอร์เซ็นต์ อะไรที่คุณสามารถพูดได้ นั้นมันเป็นทั้งหมดที่คุณสามารถถามหาได้”

“โชคร้าย เราไม่มีความเร็วพอในขณะนี้ เราจำเป็นต้องทำให้มันมีประสิทธิภาพกลับมาก่อนที่เราจะเริ่มเก็บคะแนนจากการแข่งขัน”

“การเปลี่ยนยาง เป็นอะไรที่เลวร้ายมากสำหรับพวกเรา มากกว่าทีมอื่น และทีมอื่นเขาทำได้ดี แต่เราโชคร้ายเหมือนกับกรณีของวิลเลี่ยมส์ และซัวเบอร์”

“บางทีมีสิ่งอื่น ๆ แต่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากสิ่งหนึ่งในรถ และผลมันก็ทำให้เราสูญเสียความแข็งแกร่งของเรา”

“ทั้งหมดนี้ คุณสามารถพูดได้ว่า เรากำลังต่อสู้อย่างหนัก”