ทั้งสองฝ่ายมีคะแนนเท่ากันก่อนที่จะเจอกันในศึก เอล กลาซิโก้ ในวันอาทิตย์ที่ สนามซานติอาโก เบร์นาเบว
นี่หมายความว่า เรอัล มาดริด ต้องการชัยชนะเพื่อสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งสำคัญของพวกเขา ฝ่ายเจ้าบ้านนำในนาทีที่ 11 เมื่อคาริม เบนเซม่า ได้ประโยชน์จากการยิงของ วินิซิอุส จูเนียร์ ที่มาร์ค อังเดร แตร์-สเตเก้น ซ้ำบอลเข้าไปไม่พลาด เรอัล มาดริด นำ 1-0
จากนั้นเป็นต้นมา เรอัล มาดริดทั้งหมดก็ขึ้นนำเป็น 2-0 ในช่วง 35 นาทีในครึ่งแรกด้วยการยิงระยะไกลจากขอบกรอบของเฟเดริโก้ บัลเบร์เด้
เบนเซม่า คิดว่าเขายิงประตูที่สองของเขาในช่วงบ่ายและที่สามของเกมของเรอัลมาดริด แต่ความพยายามของเขาถูกตัดสินโดย VAR สำหรับล้ำหน้า
เรอัล มาดริด นำ 2-0 ในครึ่งแรก แต่บาร์เซโลนาออกจากห้องแต่งตัวอย่างแข็งแกร่งขึ้นโดยหวังว่าจะหาทางกลับเข้าสู่เกม
ครึ่งหลัง บาร์เซโลน่า เกือบจะได้ประตูตีตื้นหลังจาก โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ โดนสกัดล้มาลงไป แต่ผู้ตัดสินไม่ให้เป็นจุดโทษ
ภายหลังบาร์เซโลนาได้ประตูกลับมาเมื่อ เฟร์ราน ตอร์เรส ทำแต้มจากลูกส่งตอกส้นของ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ เพื่อเลื่อนลูกบอลผ่าน อันเดร ลูนิน และทำประตูให้กับเรอัลมาดริด
อย่างไรก็ตาม ในนาทีสุดท้ายของเกม เรอัล มาดริด ได้จุดโทษ และเมื่อ คาริม เบนเซม่า ออกจากเกมแทน โรดรีโก้ ที่ก้าวขึ้นมารับและทำประตูให้เรอัล มาดริด 3 แต้ม ชัยชนะ 1 นัดและนำหน้าบาร์เซโลน่า 3 แต้มที่จ่าฝูงของตาราง
ลิงค์สำรอง ดาฟาเบท