ฝันในการเข้าชิงชนะเลิศยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกครั้งแรกของแมนเชสเตอร์ ซิตี้นั้นมีอันต้องจบลงด้วยน้ำมือของเรอัล มาดริด โดยทางนายใหญ่ซิตี้ มานูเอล เปเยกรินี่ ยืนยันว่าที่ต้นสังกัดเก่าของเขานั้นได้เข้ารอบเป็นเรื่องดวงมากกว่าฝีมือ

ตัวแทนจากพรีเมียร์ลีกร่วงตกรอบด้วยผลต่างเพียงประตูเดียวจากทั้ง 2 เกม ซึ่งเกิดจากจังหวะที่ลูกเปิดของ แกเร็ธ เบล แฉลบ เฟอร์นานโด เปลี่ยนทางผ่านมือ โจ ฮาร์ท เข้าประตูไปในช่วงครึ่งแรกที่ฟาดแข้งกันในเมืองหลวงของสเปน

ที่เบร์นาเบวในนัดนี้ทีมเรือใบประสานงานกันไม่ดีและขาดความเฉีบยขาดในหลายจังหวะ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าทีมของเปเยกรินี่สร้างโอกาสได้ไม่มาก

ซึ่งจังหวะใกล้เคียงที่สุดของพวกเขาเกิดขึ้นเมื่อ เซร์คิโอ อเกวโร่ ได้โอกาสซัดในช่วงท้ายเกมแต่บอลเหินข้ามคานไป

อย่างไรก็ตามเปเยกรินี่ซึ่งจะถูกแทนที่โดย เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ในซัมเมอร์นี้ รู้สึกว่าทั้งสองทีมต่างไม่สมควรเป็นผู้ชนะในเวลาปกติและการดวลจุดโทษตัดสินน่าจะเป็นผลลัพธ์ที่ยุติธรรมกว่า

“เราไม่สมควรจะเป็นฝ่ายแพ้เกมนี้” เจ้าตัวกล่าว “เรอัลโชคดีมากที่จังหวะบอลแฉลบช่วยให้พวกเขาได้ประตู”

“ไม่มีทีมไหนสมควรจะชนะและมันควรยืดเยื้อไปถึงการยิงลูกโทษ เรามองว่าเรอัล มาดริด ไม่ได้เหนือกว่าเราเลย ถึงแม้ว่าเราจะสร้างโอกาสได้ไม่มากพอจะเปลี่ยนเป็นประตู”

“แฟร์นันดินโญ่ได้โอกาสที่ดีที่สุดในครึ่งแรก การจังหวะที่ได้ยิงจากนอกกรอบแล้วบอลเฉี่ยวเสาไปนิดเดียว”

ทีมราชันนั้นมีโอกาสยิงถึง 15 ครั้งในขณะที่ซิตี้มีเพียง 4 เท่านั้น แต่กุนซือชาวชิลีก็รู้สึกว่าทั้งสองทีมต่างขาดคุณภาพในพื้นที่สุดท้าย “ผมคิดว่ามันคล้ายกับเกมในนัดแรกซึ่งมีโอกาสยิงกันไม่มาก ทีมเล่นกันได้ตามแผนแต่ไม่มีใครสร้างความแตกต่างสำเร็จ” เขากล่าวเสริม

“เราสร้างสรรค์เกมกันไม่ดี เรามีโอกาสเหมาะๆจาก แฟร์นันดินโญ่ แล้วจากนั้นก็จากกุน (เซร์คิโอ อเกวโร่) แต่ก็ถือว่ายังมีไม่มาก เช่นเดียวกับเรอัล มาดริด ที่สร้างโอกาสได้ไม่เยอะเช่นกัน”

เรอัล มาดริดนั้นมีอัตราคว้าแชมป์ในนัดชิงแชมเปี้ยนส์ลีกอยู่ที่ 1.73 โดยพวกเขาจะพบกับแอตเลติโก้ คู่ปรับร่วมเมืองในมิลาน ขณะที่ทีมของ ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ มีราคาการเป็นแชมป์อยู่ที่ 2.10