เควิน เดอ บรอยน์ พาทีมชาติเบลเยียมเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย หลังจากเอาชนะ เดนมาร์ก ไปได้ 2-1 ที่โคเปนเฮเกน

เควิน เดอ บรอยน์ ลงสนามแบบใส่หน้ากากกันกระแทกเป็นเกมแรก นับตั้งแต่เล่นให้ แมนฯ ซิตี้ ในรอบชิงชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ ลีก และมีส่วนช่วยให้ ธอร์แกน อาซาร์ ตีเสมอ เดนมาร์ก ได้ในนาทีที่ 55 

โดยเกมนี้ เดนมาร์ก จะไม่มี คริสเตียน อีริคเซ่น ที่ฟุบกลางสนามในเกมก่อนหน้านี้ ก่อนเริ่มเกมทั้งสองทีมได้ให้กำลังใจ อีริคเซ่น และเริ่มเกมเป็น ยุสซุฟ โพลเซน ยิงให้ เดนมาร์ก นำก่อน ในนาทีที่ 2 แต่ เบลเยียม ก็พลิกกลับมาชนะได้จากประตูชัยในนาทีที่ 70 จาก เควิน เดอ บรอยน์

ประตูตีเสมอของ เบลเยียม เริ่มมาจาก ลูกากู ได้บอลจาก เดอ บรอยน์ ก่อนที่ ลูกากู จะจ่ายให้ ธอร์แกน อาร์ซา ตีเสมอ

โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ ส่ง เดอ บรอยน์ มาในครึ่งหลัง นั้นทำให้เขากลับมาผสานงานกับ เอเด็น อาซาร์ และ อาเซล วิตเซล จะมาได้ประตูตีเสมอในนาทีที่ 55 และประตูชัยที่เข้าตัวเป็นคนยิงเองในนาทีที่ 70 

ท้ายเกม มาร์ติน เบธไวน์ เกือบช่วยให้ เดนมาร์ก ตีเสมอ แต่ อันเดรส โอลเซ่น ยิงข้ามคานไปเอง จบเกม เบลเยียม เอาชนะไปได้ 2-1 

ชัยชนะรับประกันว่าเบลเยียมจะผ่านเข้าสู่รอบน็อกเอาต์ ในขณะที่เดนมาร์กจะหวังว่าจะชนะเกมสุดท้ายของพวกเขากับรัสเซียเพื่อให้มีความหวังเพียงเล็กน้อยในการผ่านเข้ารอบ 

ในขณะเดียวกัน ยูเครนชนะมาซิโดเนียเหนือ 2-1 ในขณะที่เนเธอร์แลนด์เอาชนะออสเตรีย 2-0