ก่อนเริ่้มเกม โคโลญจน์ เป็นทีมที่อันดับดีกว่าในบุนเดสลีก้า พร้อมกับได้โอกาสจบสกอร์ก่อนในเกมจาก ไคนซ์ เปิดบอลให้ อูเซียนบาซิช ยิงไม่เข้ากรอบ 

โคโลญจน์ ได้โอกาสอีกครั้งจาก อดัมยาม ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำเดือนตุลาคม โดยเจาะเกมรับทางฝั่ง เฌเรมี่ ฟริมปง และ มุสซ่า ดิยาบี้ 

อย่างไรก็ตาม โคโลญจน์ มาได้ประตูขึ้นนำจาก เบนโน่ ชมิตซ์ ในนาทีที่ 30 ฉลองการลงสนามนัดที่ 100 ในลีกสูงสุดของเยอรมัน 

ขณะที่ เลเวอร์คูเซ่น เกือบจะได้ประตูตีเสมอก่อนจบครึ่งแรกจาก คัลลัม ฮันสัน โอดอย ที่โหม่ง แต่จัดระเบียบร่างกายไม่ดีทำให้บอลไม่มีน้ำหนักเข้ามือผู้รักษาประตูไป และจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลัง เลเวอร์คูเซ่น มาได้ประตูตีเสมอ นาดิเอม อามิรี ในนาทีที่ 65 เสมอกัน 1-1 อีก 6 นาทีต่อมา เลเวอร์คูเซ่น ช็อคเจ้าถิ่น เมื่อมาได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะที่ เฌเรมี่ ฟริมปง เติมเกมรุกขึ้นสูง ก่อนจะเปิดบอลให้ มุสซ่า ดิยาบี้ ปิดสกอร์เข้าไป ทีมเยือนนำ 2-1 

โคโลญจน์ ทำการแก้เกมใน 15 นาทีสุดท้ายด้วยการเปลี่ยนตัวสำรองลงมาสองคน แยน ธีลมันน์ และ สเตฟาน ทิ๊กก์ส ลงสนามมาพร้อมกับเปลี่ยนแผนเป็นระบบ 4-4-2 แต่ทั้งสองคนก็ทำอะไรไม่ถนัดนัด และ แยน ธีลมันน์ ก็โดนใบเหลืองไปอีกคนในนาทีที่ 82 จบเกม เลเวอร์คูเซ่น เอาชนะไปได้ด้วยสกอร์ 3-2 

สามแต้มของ เลเวอร์คูเซ่น ทำให้สถานการณ์ในการลุ้นหนีตกชั้นดีขึ้น เมื่อห่างจากพื้นที่เพลย์ออฟตกชั้นอยู่ 4 คะแนนในตอนนี้