โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ ผู้จัดการทีมคนใหม่ของเอฟเวอร์ตันออกโรงปกป้องลูกทีม หลังจากที่พวกเขาพ่ายคาบ้านต่อเวสต์บรอมเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

ด้วยประตูของ ซาโลมอน รอนดอน ในนาทีที่ 14 ทำให้ลูกทีมของ โทนี่ พูลิส คว้าชัยเหนือเอฟเวอร์ตันได้ถึงถิ่น แม้เจ้าบ้านจะบุกหนักกว่าอย่างมากก็ตาม

ยิ่งไปกว่านั้นท๊อฟฟี่สีน้ำเงินยังยิงชนเสาและคานอีก 2 ครั้งในช่วงครึ่งแรก และในช่วงครึ่งหลังพวกเขาก็สร้างโอกาสทำประตูได้อย่างมากมายจนกระทั่งจบเกม

ทำให้เอฟเวอร์ตันมีโอกาสทำประตูรวมทั้งเกมสูงถึง 34 ครั้ง ขณะที่เวสต์บรอมฯได้ยิงเพียง 5 ครั้งเท่านั้น อีกทั้งยังครองบอลได้เหนือกว่าที่ 76% ตลอด 90 นาที

แม้ว่าสถิติจะบอกว่ายอดทีมจากเมอร์ซีไซด์เล่นเหนือกว่ามาก แต่จนแล้วจนรอดพวกเขาก็ไม่อาจยิงประตูผ่าน เบน ฟอสเตอร์ ได้เลย ส่งผลให้ตอนนี้พวกเขามีสถิติชนะในบ้านไปเพียง 4 จาก 13 นัดเท่านั้น

ด้านมาร์ติเนซโค้ชของทีมออกมาเผยว่าพวกเขาไม่ได้เล่นพลาดอะไร แต่ก็ไม่สามารถอธิบายได้ว่าเพราะเหตุใดจึงเจาะประตูเวสต์บรอมไม่ได้

“ผมคิดว่าเราไม่ได้ทำอะไรผิดเลย มันเป็นอีกเกมที่คุณไม่อาจหาคำตอบได้ว่าทำไมคุณจึงเสียประตูและพ่ายแพ้จากลูกเปิดเตะมุมที่เวสต์บรอมฯทำได้ ซึ่งเป็นการยิงเข้ากรอบเพียงครั้งเดียว” โค้ชชาวสเปนกล่าว

“เรามีโอกาสลั่นไกถึง 34 ครั้ง ผมคิดว่าเราเล่นได้ดีจนสามารถหาโอกาสเข้าทำใส่เวสต์บรอมฯได้มากมาย แต่เราก็ชนเสาและคาน”

“ผมไม่สามารถหาข้อตำหนิจากความพยายามและแนวทางการเล่นของเราเลย มันเป็นอีกหนึ่งในเหตุการณ์ของฟุตบอลที่บางครั้งยากจะอธิบาย”

มาร์ติเนซยังเผยอีกว่าเขารู้สึกได้ถึงความกังวลใจที่แพร่ออกจากจากแฟนบอลในถิ่น กูดิสัน พาร์ค ตั้งแต่ต้นเกม ซึ่งเขามีความเห็นว่ากองเชียร์จำเป็นต้องสนับสนุนนักเตะสุดกำลังในช่วงเวลาที่พวกเขาต้องการจะพลิกเกมให้ได้

“ผมคิดว่าเราต้องเปลี่ยนพวกเขาให้ได้โดยเร็ว เพราะเราจำเป็นต้องพึ่งพาการสนับสนุนของแฟนๆ” เขากล่าวเสริม

สุดสัปดาห์ต่อไปเอฟเวอร์ตันเตรียมจะทำศึกฟุตบอลถ้วยกับบอร์นมัธ โดยขณะนี้ “ท๊อฟฟี่สีน้ำเงิน” มีโอกาสคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ ที่เรท 15.00