แชมป์โลก 5 สมัยอย่างบราซิลจะเริ่มเดินหน้าล่าแชมป์สมัยที่ 6 ในแมตช์แรกที่จะเจอกับ เซอร์เบีย ในวันพฤหัสบดีนี้

บราซิลและเซอร์เบียอยู่ในกลุ่มเดียวกันในฟุตบอลโลกครั้งล่าสุดที่รัสเซีย โดยทีมแซมบ้า บอยส์เป็นผู้ชนะ 2-0

ทีมในตอนนั้นและในวันพฤหัสบดีดูแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง โดยมีไม่กี่คนจากชุดนั้นที่ยังหลงเหลืออยู่ในทีมชาติชุดปัจจุบัน 

บราซิลไม่แพ้ใครเลยนับตั้งแต่โคปา อเมริกา ที่แพ้อาร์เจนตินาครั้งสุดท้ายเมื่อซัมเมอร์ปี 2021 และพวกเขาอยู่ในสตรีคที่ชนะรวด 7 นัดติดต่อกันจนถึงเดือนกุมภาพันธ์

ทีมยุโรปไม่แพ้ใครเลยนับตั้งแต่ที่พวกเขาแพ้นอร์เวย์ 0-1 เมื่อเดือนมิถุนายน และไม่แพ้ใครมา 6 นัด ชนะ 5 เสมอ 1 นัด

ทั้งสองทีมไม่มีปัญหาอาการบาดเจ็บให้ต้องกังวลและมีผู้เล่นเต็มอัตราศึกยกเว้นพวกที่ถูกส่งกลับบ้านไปก่อนหน้านี้

อย่างไรก็ตาม พวกเขาจะไม่ใช่แมตช์เดียวที่จะได้เห็นในวันพฤหัสบดี เนื่องจากมีเกมสี่เกม แคเมอรูนจะพบกับสวิตเซอร์แลนด์ อุรุกวัยจะพบกับเกาหลีใต้ โปรตุเกสจะพบกับกานา ก่อนที่บราซิลและเซอร์เบียจะเผชิญหน้ากัน

ในวันพุธ โมร็อกโกและโครเอเชียเสมอกัน 0-0 ในขณะที่เยอรมนีต้องช็อกเมื่อแพ้ญี่ปุ่น 1-2 แม้จะได้ลูกจุดโทษของอิลคาย กุนโดกันมาก่อนในครึ่งแรกก็ตาม

ญี่ปุ่นทำสองประตูในช่วงท้ายเพื่อคว้าชัยชนะ 2-1 ในขณะเดียวกัน สเปนก็โชว์ความเหนือกว่าด้วยการถล่มคอสตาริกา 7-0 ซึ่งเป็นความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ที่สุดของคอสตาริกา

ทีมฟุตบอลโลกของบราซิล:

ผู้รักษาประตู : อลิสซอน, เอแดร์ซอน, เวแวร์ตัน

กองหลัง : ดานี่ อัลเวส, ดานิโล่, อเล็กซ์ ซานโดร, อเล็กซ์ เตลเลส, เบรแมร์, เอแดร์ มิลิเตา, มาร์กินญอส, ธิอาโก้ ซิลวา

กองกลาง : บรูโน่ กิมาไรส์, คาเซมิโร่, เอแวร์ตัน ริเบโร่, ฟาบินโญ่, เฟร็ด, ลูคัส ปาเกต้า

กองหน้า : อันโตนี่, กาเบรียล เฆซุส, กาเบรียล มาร์ติเนลลี่, เนย์มาร์, เปโดร, ราฟินญา, ริชาร์ลิสัน, โรดรีโก้, วินิซิอุส จูเนียร์