แบรนดัน รอดเจอร์ ได้กล่าวว่า มันเหมือนเป็น “ความฝัน” ในฤดูกาลนี้หลังจากพาทีมคว้าแชมป์รายการสก็อตติช คัพ และรักษาสถิติให้ทีมนั้นไม่แพ้ทีมใดๆ เลยในลีกประเทศของตัวเอง

เซลติก ลงสนามแฮมป์เด้น พาร์ค เพื่อหงวังเป็นทีมแรกในวงการฟุตบอลสก็อตแลนด์ที่ไม่แพ้ให้กับทีมใดเลยและคว้าทั้ง 3 แชมป์ของประเทศศ และเขาได้ทำสำเร็จตามเป้าหมาย

นักเตะทีมชาติไอร์แลนด์อย่าง จอห์นนี ฮาเยส ได้ทำประตูแรกให้กับอะเบอร์ดีออกนำไปก่อนในนาทีที่ 10 แต่มิดฟิลด์วัย 25 ปีอย่าง สจ๊วต อาร์มสตรอง ได้ทำประตูตีเสมอได้จากการหวด 20 หลา หลังจากนั้นเพียง 2 นาที

เกมส์การแข่งขั้นนั้นก็ได้ดำเนินไปจนถึงช่วงต่อเวลา จนกระทั่งนาทีที่ 92 นักเตะทีมชาติออสเตรเลียอย่าง ทอม โรจิก จะซัดประตูชัยสุดสวยงามเข้าไปตุงตาข่าย

มันเป็นฤดูกาลที่น่าตื่นเต้นมากๆ สำหรับเซลติ ที่รักษาสถิติไม่แพ้ใครเลยตลอดทั้งฤดูกาล และร็อดเจอร์ก้ไก้เผยว่า นี่ถือเป็นความสุขของเขาหลังวจากที่ทีมเอาชนะเหนืออะเบอร์ดีนไปได้

“มันช่างน่าเหลือเชื่อ” เขากล่าวกับทาง BBC สก็อตแลนด์ “ผมไม่สามารถที่จะเขียนบทออกมาได้ดีเท่านี้ มันเหมือนกับความฝัน ผมเกิดมาก็เป็นแฟนบอลของเซลตอก และมันยิ่งใหญ่มากๆ ที่ผมได้พาทีมประสบความสำเร็จขนาดนี้”

“หากว่าคุณต้องการสร้างประวัติศาสตร์ อย่างที่เราทำได้ คุณจะต้องทำให้มันเกิดขึ้นจริง และร่วมมือกับนักเตะในสิ่งนี้”

“ตอนนี้คุณสามารถเขียน หรือ พูดถึงมันได้ แสดงความยินดีอย่างสุดซึ้งกับนักเตะ และผู้สนับสนุนทุกๆ คน เพราะว่ามันเป็นอะไรที่สุดยอดมากๆ”

“มันเป็นวันที่ยอดเยี่ยมของทีมเรา” ความตั้งใจตอนนี้ของเซลติกคือรักษาความแข็งแกร่งย่างนี้ต่อไปให้ได้ในฤดูกาลหน้า และทำผลงานให้ยอดเยี่ยมมากยิ่งขึ้นในรายการแชมเปี้ยนส์ลีก

ลูกทีมของร็อดเจอร์ประสบความล้มเหลวในศึกแชมเปี้ยนส์ลีกด้วยการกระเด็นจกรอบเป็นทีมบ๊วยของกลุ่ม โดยไม่พบชัยชนะเลย อีกทั้งยังแพ้ต่อบาร์เซโลนาไปอย่างมโหฬารด้วยสกอร์ 7-0 จากการไปเยือนถิ่นคัมป์ นู