เชลซี ทำได้แค่เสมอกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-1 เมื่อวันอาทิตย์ที่สแตมฟอร์ดบริดจ์ในพรีเมียร์ลีก เกมดังกล่าวเป็นเกมที่ 2 ภายใต้การคุมทีมของ ไมเคิ่ล คาร์ริค และมีแนวโน้มว่า แมนฯ ยูไนเต็ด อาจจะได้ ราล์ฟ รังนิค มาคุมทีม 

หลังจากเกมแรกของเขาในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกจบลงด้วยการชนะบียาร์เรอัลเมื่อกลางสัปดาห์ คาร์ริค หวังว่าจะต่อยอดชัยชนะอีกครั้งในเกมพรีเมียร์ลีก 

แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ประตูนำก่อนจาก จาดอน ซานโช ในช่วงต้นครึ่งหลังหลังจากครึ่งแรกที่ทำประตูไม่ได้

อย่างไรก็ตาม แมนฯ ยูไนเต็ด นำได้แค่ 15 นาที เชลซี ก็มาตามตีเสมอได้จาก จอร์จินโญ่ จบเกม เสมอกันไป 1-1 

ขณะเดียวกัน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เอาชนะเวสต์แฮม ยูไนเต็ด 2-1 ที่สนามเอติฮัด ริยาดห์ มาห์เรซ เกือบจะทำประตูขึ้นนำให้กับ ซิตี้ ในนาทีที่ 16 ทว่าโดน VAR จับล้ำหน้าไปก่อน อย่างไรก็ตาม อิลคาย กุนโดกัน ยิงได้ในนาทีที่ 33 

ท้ายเกม แฟร์นานดินโญ่ ยิงให้ ซิตี้ นำ 2-0 ในนาทีที่ 90 ก่อนที่ มานูเอล ลานซินี่ จะยิงตีตื้นขึ้นมาให้ เวสต์แฮม ไล่ขึ้นมาเป็น 2-1 แต่ไม่ทัน จบเกม แมนฯ ซิตี้ เอาชนะไปได้ 2-1 

ในขณะเดียวกัน เจมี่ วาร์ดี้ ก็ทำประตูให้ทีมเลสเตอร์ ซิตี้เอาชนะเบรนท์ฟอร์ด 4-2 ในพรีเมียร์ลีก

เจมส์ แมดดิสัน ทำประตูแรกของหนังระทึกขวัญทั้ง 6 ประตูในนาทีที่ 16 ก่อนที่จอช คิงจะตีเสมอให้วัตฟอร์ดในนาทีที่ 30

จากนั้น เจมี่ วาร์ดี้ ก็ยิงลูกแรกของ 2 ประตูของเขาในอีก 4 นาทีต่อมา ก่อนจะยิงลูกที่สองและลูกที่สามให้เลสเตอร์ ซิตี้ ก่อนจบครึ่งแรก เมื่อเขาได้ประโยชน์จากเจมส์ แมดดิสันเป็นครั้งที่สองในครึ่งแรก

เอ็มมานูเอล เดนนิส ยิงประตูที่ห้าของเขาตั้งแต่เข้าร่วมวัตฟอร์ดในนาทีที่ 61 ก่อนที่อเดโมล่า ลุคแมนจะยิงสี่ประตูให้เจ้าบ้านเจ็ดนาทีต่อมา

จุดโทษในครึ่งแรกของ อีวาน โทบี้ เพียงพอที่จะเห็น เบรนท์ฟอร์ด ชนะ เอฟเวอร์ตัน 1-0 ขณะที่ เบิร์นลี่ย์ และ สเปอร์ส ต้องเลื่อนเกมการแข่งขันออกไปเพราะสภาพอากาศที่เลวร้าย