สโมสรในพรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล และแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต่างคว้าชัยชนะในวันพุธ การันตีโอกาสเข้ารอบน็อคเอาท์ แชมเปี้ยนส์ลีก ไปเป็นที่เรียบร้อย

ราฮีม สเตอร์ลิ่ง และกาเบรียล เฆซุสทำประตูได้ในครึ่งหลัง ในเกมที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พลิกแซงนำปารีส แซงต์-แชร์กแมงในครึ่งหลัง หลังจากคีเลียน เอ็มบัปเป้ ยิงให้ เปแอสเช นำก่อน

ทั้งสองฝ่ายเสมอ 0-0 ในครึ่งแรกก่อนที่ เอ็มบัปเป้ จะยิงให้ เปแอสเช นำหลังจากเริ่มครึ่งหลังมาได้ 5 นาที อย่างไรก็ตาม ราฮีม สเตอร์ลิง แหย่เท้าชาร์จเข้าไปตีเสมอให้ แมนฯ ซิตี้ เสมอ 1-1 ในนาทีที่ 60

ชัยชนะหมายความว่าแมนเชสเตอร์ซิตี้จะผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายในฐานะผู้ชนะกลุ่ม โดยที่ปารีสยังคงอยู่ด้วยคะแนน 8 แต้มในตำแหน่งที่สอง โดยเหลืออีกเพียงเกมเดียวเท่านั้น หมายความว่าพวกเขาไม่สามารถแซงแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้

ขณะที่ ลิเวอร์พูล เข้ารอบน็อคเอาท์ แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นที่แน่นอนแล้วหลังจากเอาชนะ เบนฟิก้า ไปได้ 2-0 ในเกมที่ 5 ของรอบแบ่งกลุ่ม

กีฬาที่น่าพิศวงของลิเวอร์พูลได้รับการยืนยันแล้วก่อนเกมกลุ่มที่ห้าของฤดูกาลที่ท่าเรือยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก พวกเขายังคงเก็บ 3 แต้มได้ในขณะที่เอาชนะเอฟซี ปอร์โต้

ทีมของเจอร์เก้น คล็อปป์ ไม่มีโรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ แต่ยังคงสามารถผลิตสกอร์ได้อย่างต่อเนื่อง

เกมกับ เบนฟิก้า ทาง ลิเวอร์พูล น่าได้ประตูขึ้นนำก่อนจาก ซาดิโอ มาเน่ แต่โดน VAR จับล้ำหน้า อย่างไรก็ตามก็ตาม ลิเวอร์พูล มาได้ประตูนำจากลูกยิงไกลสุดสวยของ ธิอาโก้ อัลกานตาร่า และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เอาชนะไปได้ 2-0

หากเกมหน้า ลิเวอร์พูล เก็บชัยได้อีกนัด พวกเขาจะมี 18 คะแนนเต็มในหกเกมในรอบแบ่งกลุ่มยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก  เมื่อพวกเขาเผชิญหน้ากับเอซี มิลานในเกมสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม ฝ่ายอิตาลีเอาชนะแอตเลติโกมาดริด 1-0 ในสเปนเมื่อเย็นวันพุธ