ศึกแย่งแชมป์พรีเมียร์ลีกเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ เมื่อ ลิเวอร์พูล บุกไปยันเสมอกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2–2 ที่สนามเอทิฮัด

ต่างฝ่ายต่างเก็บหนึ่งคะแนนไป ถือว่าเป็นผลลัพธ์ที่ยุติธรรมสำหรับทั้งสองฝ่าย 

อย่างไรก็ตามมีแฟนบอลบางส่วนไม่พอใจกับการทำงานของผู้ตัดสิน เพราะ แมนฯ ซิตี้ ถูกริบประตูชัย เนื่องจากจังหวะล้ำหน้า ของ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง

เริ่มเกม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ขึ้นนำเพียงแค่ 5 นาทีในเกมผ่านเควิน เดอ บรอยน์ ทว่า ดิโอโก้ โชต้า ตามตีเสมอให้กับ ลิเวอร์พูล ในอีก 8 นาทีต่อมา 

แมนฯ ซิตี้ ขึ้นนำอีกครั้งจากประตูของ กาเบรียล เฆซุส ให้ซิตี้ขึ้นนำก่อนพักครึ่ง 9นาที 

เริ่มครึ่งหลังได้แค่นาทีเดียวซาลาห์ แทงบอลให้ ซาดิโอ มาเน่ หลุดเดี่ยว ยิงเข้าไปเสมอกัน 2–2 ในขณะที่ราฮีม สเตอร์ลิ่ง คิดว่าเขาทำให้ซิตี้ชนะในนาทีที่ 63 เพียงเพื่อให้ VAR เสียประตู

ทั้งสองฝ่ายต่างชิงขังหวะกันตลอดทั้งเกม แต่ผลที่ได้หมายความว่าไม่มีใครรู้ว่าจะเป็นทีมไหนคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกจนกว่าจะถ

เหลืออีกเจ็ดเกม ลิเวอร์พูลจะพบกับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดต่อไปในขณึงนัดสุดท้าย

จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กัปตันทีมลิเวอร์พูลตั้งตารอคอยเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก นัดที่สองกับเบนฟิก้า 

“ในโลกฟุตบอล คุณไม่มีทางรู้หรอกว่าจะเกิดอะไรขึ้น เกมใหญ่มาเร็ว ไม่มีเวลาให้คิด คุณต้องเรียนรู้จากสิ่งนี้และก้าวไปข้างหน้า และเตรียมพร้อมสำหรับเบนฟิก้า” เฮนเดอร์สันกล่าวว่า

ในเกมพรีเมียร์ลีกอื่นๆ ในช่วงสุดสัปดาห์ นอริช ซิตี้ เอาชนะ เบิร์นลีย์ 2–0 ที่ถนนแคร์โรว์ ได้ประตูจาก ลี เมลู และ ติมู พุคกี้ 

เลสเตอร์ ซิตี้ เอาชนะคริสตัล พาเลซ 2–1 ที่คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม ขณะที่เบรนท์ฟอร์ดเอาชนะเวสต์แฮมยูไนเต็ด 2–0