อังกฤษเข้าชิงชนะเลิศรายการใหญ่เป็นครั้งแรกในรอบ 55 ปีหลังจากเอาชนะเดนมาร์ก 2-1 ในรอบรองชนะเลิศที่สองที่เวมบลีย์เมื่อวันพุธที่ผ่านมา
อังกฤษ มีทัวร์นาเมนต์ที่ยอดเยี่ยมโดยไม่แพ้ใคร 5 นัดติด แต่ก็มาโดนขึ้นนำไปก่อนจาฟฟรีคิกของ มิคเคล ดัมส์การ์ด ที่ยิผ่าน จอร์แดน พิคฟอร์ด เข้าไปในครึ่งชั่วโมงแรก
เก้านาทีต่อมา กัปตันทีมชาติเดนมาร์ก ไซม่อน เคียร์ ยิงเข้าประตูตัวเอง ทำให้แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ทำอะไรไม่ถูก หลังได้รับแรงกดดันจาก บูคาโย ซาก้า กองหน้าอาร์เซนอล ที่ส่งบอลเข้าเขตโทษ
ในช่วงครึ่งหลังเห็นว่าอังกฤษกดดันเดนมาร์ก แต่ผู้รักษาประตูเลสเตอร์ ซิตี้ นั้นก็เท่ากับงานในทุกความพยายามของอังกฤษ รวมถึงความพยายามของแฮร์รี่ แม็คไกวร์ และแฮร์รี่ เคน
เกมดำเนินต่อในช่วงต่อเวลาพิเศษขณะที่เดนมาร์กแสดงความเหนื่อยล้าและ อังกฤษ สร้างแรงกดดันอย่างหนัก
ฝ่ายของแกเร็ธ เซาธ์เกตได้จุดโทษในช่วงต่อเวลาพิเศษครึ่งแรกเมื่อ สเตอร์ลิง โดนทำฟาวล์ และเป็น แฮร์รี่ เคน รับหน้าที่ยิงจุดโทษ แม้ว่า ชไมเคิ่ลจะเซพเอาไว้ได้ แต่ เคนก็ซ้ำดาบสองไปไม่พลาด
กองหน้ายอมรับความกล้าหาญของชาวเดนมาร์กที่ยังสามารถแข่งต่อได้แม้ว่าตอนรอบแบ่งกลุ่ม เดนมาร์ก จะเจอกับ สถานการณ์ที่ยากลำบากของ คริสเตียน อีริคเซ่น
เคน กล่าวว่า “ให้เครดิตกับเดนมาร์ก เราเจาะลึกและเราไปถึงที่นั่นเมื่อมันสำคัญ เราตอบสนองได้ดีมาก – เราอยู่ในนัดชิงชนะเลิศที่บ้าน ช่างเป็นความรู้สึกที่ดี เรารู้ว่ามันจะเป็นเกมที่ยากมากกับอิตาลีที่เราเคยมี การแข่งขันที่ยอดเยี่ยมจนถึงตอนนี้ อีกเกมหนึ่งให้กลับบ้านและเรารอไม่ไหวแล้ว”
อังกฤษหวังว่าจะคว้าแชมป์แรกของพวกเขาตั้งแต่ฟุตบอลโลกปี 1966 ซึ่งพวกเขาเอาชนะเยอรมนีตะวันตกเมื่อพบกับอิตาลีในรอบชิงชนะเลิศในวันที่ 11 กรกฎาคมที่เวมบลีย์
ชาวอิตาลีเอาชนะสเปนด้วยจุดโทษเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา และไม่เคยแพ้อังกฤษในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ก่อนหน้านี้
ลิงค์สำรอง ดาฟาเบท