เอซี มิลานยังรักษาตำแหน่งจ่าฝูงในเซเรีย อา


แม้ว่าจะมีผู้เล่นน้อยกว่ามากกว่า 60 นาที เอซี มิลาน จ่าฝูงเซเรีย อาก็เก็บชัยชนะ 2-0 ในการเจอกับเบเนเวนโต้ที่สนามสตาดิโอ ชิโร่ วิกอริโต้

ซานโดร โตนาลี่ ยิงให้ทีมขึ้นนำไปก่อนหลังผ่านไปแค่ 33 นาที แต่รอสโซเนรี่ก็รอดการตีเสมอจากจุดโทษของ จานลูก้า คาปรารี่ ลูกทีมของ สเตฟาโน่ ปิโอลี่ ผ่านความยากลำบากได้สำเร็จและขึ้นไปรั้งจ่าฝูงแทนที่ อินเตอร์ มิลาน ที่เตะเร็วกว่าในวันนั้นหลังจากถล่มยับโครโตเน่ทีมน้องใหม่ 6-2

พวกเขาเก็บชัยได้โดยที่ไม่มี ซลาตัน อิบราฮิโมวิช กองหน้าตัวเก่งวัย 39 ปี, อิสมาแอล เบนนาเซอร์, อเล็กซิส แซเลแมเกอร์ส และ มัตเตโอ กับเบีย ที่อยู่ระหว่างพักรักษาอาการบาดเจ็บ ขณะที่ ธีโอ แอร์น็องเดซ ก็ไม่มีชื่อเพราะติดโทษแบน

จากการจบด้วยชัยชนะ 2 เกมติดในการเจอกับเจนัวและอูดิเนเซ่ด้วยสกอร์ 2-0 เลอ สเตรเก้ คาดว่าจะสร้างความยากลำบากให้กับผู้นำโดยเฉพาะเมื่อจ่าฝูงมีคนน้อยกว่า 1 ราย เบเนเวนโต้เคยแบ่งแต้มกับยูเวนตุสและลาซิโอมาแล้วในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา

มิลานยิงขึ้นนำไปก่อนจากจุดโทษจากมือปืนประจำ ฟร้องค์ เคสซี่ หลังจากเพิ่งกลับมาจากโทษแบน นี่เป็นของขวัญจากเจ้าบ้านที่ส่งคืนหลังไม่ดีทำให้ อเลสซานโดร ตูย่า ต้องเข้าสกัดแบบซุ่มซ่าม อันเต เรบิช

เจ้าบ้านมีโอกาสที่จะตีเสมอหลังจากมีโอกาสหลายครั้ง ทว่ารอสโซเนรี่ป้องกันไว้ได้หลายครั้งจาก จานลุยจิ ดอนนารุมม่า ที่ช่วยเซฟหลายครั้ง

มิลานขึ้นนำเป็น 2 ประตูหลังผ่านครึ่งเวลาหลังไป 4 นาทีจากการยิงของ ราฟาเอล เลเอา และนั่นทำให้ทีมเก็บแต้มได้สำเร็จ

สถานการณ์คู่อื่น โรม่าได้สามแต้มเต็มจากการเจอกับซามพ์โดเรียจากการยิงที่เฉียบขาดของ เอดิน เชโก้ กองหน้าบอสเนียแปบอลเปลี่ยนทางในนาทีที่ 72 เพียงพอให้เอาชนะซามพ์โดเรียและทำให้โรม่ายังไล่ล่าพื้นที่แชมเปี้ยนส์ ลีกได้ต่อเนื่อง

เชโก้ได้ลูกผ่านสุดท้ายมาจากการผ่านบอลของ ริค คาร์สดอร์ป และไม่ทำผิดพลาดในการเผชิญหน้ากับ โอมาร์ คอลลี่ย์ ที่กดดันเข้ามาจากระยะ 6 หลา

ขณะเดียวกันการปะทะกันระหว่างลาซิโอและเจนัวจบด้วยการเสมอ 1-1 ลาซิโอขึ้นนำจากการยิงจุดโทษของ ชิโร่ อิมโมบิเล่ หลังจาก คริสเตียน ซาปาต้า ผลัก เซอร์เก มิลินโควิช-ซาวิช ในกรอบเขตโทษ

จากนั้นเจ้าบ้านตีเสมอหลังจากโจมตีหลายครั้ง โชมูโรดอฟ ตัวสำรองวิ่งโต้กลับจากแดนตัวเองก่อนจ่ายให้ มัตเตีย เดสโตร ยิงตีเสมอในครึ่งเวลาแรก

ครึ่งหลังเกมเปิด มีโอกาสมากมายจากทั้งสองทีมในการจบสกอร์

หลังจากจบครึ่งแรกด้วยสกอร์ 2-2 อินเตอร์ก็ระเบิดฟอร์มในครึ่งหลังนัดที่เจอกับโครโตเน่ในสนามซาน ซิโร่ โดย เลาตาโร่ มาร์ติเนซ ยิงแฮตทริกแรกให้ทีมได้สำเร็จ

เนรัซซูร์รี่ท้ายที่สุดก็สามารถคว้าชัยนัดที่ 8 ติดต่อกันในเซเรีย อาได้สำเร็จ แต่พวกเขาต้องทำแบบนี้ผ่านการคัมแบ็กเพราะโครโตเน่ยิงนำจากการเตะมุมสั้น ลูกโหม่งแบบไม่มีตัวประกบของ นิคโคโล่ ซาเนลลาโต้ จากเสาสองทำให้ทีมเยือนขึ้นนำไปก่อน

อินเตอร์ตอบโต้ด้วยการผ่านบอลของ โรเมลู ลูคาคู ไปถึงมาร์ติเนซที่ยิงด้วยเท้าขวาจากกรอบเขตโทษด้านใน

อินเตอร์ขึ้นนำจากลูกผ่านตัดหลังริมเส้นของ นิโคโล่ บาเรลล่า ที่ไปชนมาร์โรเน่ที่บังเอิญหันหน้าไปทางตาข่ายก่อนที่บอลจะไปถึงมาร์ติเนซจากระยะ 6 หลา

โครโตเน่ตีเสมอหลังจากวิดัลเสียบช้าในการเจอเรก้า ทำให้กรรมการต้องเป่าจุดโทษ จากการขาด เอ็นวานโก้ ซิมี่ กองหน้าไนจีเรียที่เป็นแค่สำรอง วลาดิเมียร์ โกเลมิช ยิงผ่านฮันดาโนวิชเข้าไป

หลังจากเริ่มต้นใหม่ อินเตอร์ขึ้นนำอีกครั้งจากจังหวะที่ มาร์เซโล่ โบรโซวิช ที่ผ่านบอลสุดท้ายให้มาร์ติเนซจากการตอกส้นของลูคาคู

ท้ายที่สุดลูคาคูก็ยิงประตูในเกมที่ 50 ของเซเรียอาได้สำเร็จหลังจากเก็บบอลจากการจ่ายยาวของ อเลสซานโดร บาสโตนี่ ได้บริเวณกรอบเขตโทษก่อนหมุนผ่าน เซบาสเตียน ลูแปร์โต้ ก่อนที่จะยิงประตูที่ 4 ให้เจ้าถิ่น

จากนั้นมาร์ติเนซก็มายิงแฮตทริกจากบอลที่กระดอนมาหลังจากลูกยิงของเปริซิชที่โดนกอร์ดาซปัด

อินเตอร์ยิงประตูที่ 6 เมื่อ มัตเตโอ ดาร์เมี่ยน ไหลบอลผ่านมาให้ อาชาฟ ฮาคิมี่ ที่ยิงปั่นเรียดเข้าไปมุมล่างของประตู ยูเวนตุสก็เอาชนะอูดิเนเซ่ 4-1

Leave a comment