บาเยิร์น มิวนิค ส่งท้ายปี 2019 ที่บ้านตัวเองด้วยการเอาชนะ โวล์ฟสบวร์ก 2-0 พร้อมกับทำสถิติเก็บชัยได้สามเกมติด
ก่อนเริ่มเกม บาเยิร์น มิวนิค หวังต่อยอดสถิตที่บุกไปเอาชนะ ไฟร์บวร์ก 3-1 เมื่อวันพุธที่ผ่านมา
ชาวบาวาเรียต้องขุดลึกลงไปในเกมเพื่อคว้าชัยชนะซึ่งมีความหมายเหมือนกันกับเกมของพวกเขากับไฟรบูร์กเมื่อวันพุธที่ผ่านมา
ฮันส์ ฟลิค กุนซือ บาเยิร์น มิวนิค มีการโรเตชั่นนักเตะบางตำแหน่ง เนื่องจากจะไม่มี โครองแตงค์ โตลิสโซ่ และ ลีออน กอร์เรตซ์ก้า ขณะที่ ธิอาโก้ อัลคันตาร่า ติดโทษแบน
โยชัว คิมมิช จะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง ทำเกมแดนกลางร่วมกับ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ และ โธมัส มุลเลอร์ โดยมี โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ เป็นกองหน้าตัวเป้า ขณะที่ ฆาบี มาร์ติเนซ จะได้เป็นเซนเตอร์แบ็ก
เริ่มเกม บาเยิร์น มิวนิค เปิดเกมรุกอย่างหนักใส่ โวลฟ์สบวร์ก นาทีที่ 13 อีวาน เปริซิช ได้จังหวะสับไก แต่โดน โคเอ็น คาสตีลส์ เซฟเอาไว้ได้ ส่วน โวล์ฟสบวร์ก ก็เล่นแบบรัดกุมและหาจังหวะโต้กลับ แต่ มานูเอล นอยเออร์ ก็ป้องกันไว้ได้หมด ทว่าเกมยังอยู่ในกำมือของเจ้าถิ่นทั้งหมดในครึ่งแรก
ครึ่งหลัง บาเยิร์น มิงนิค ออกสตาร์ทด้วยความคึกคัก ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ได้ซัดไกลติดเซฟ โคเอ็น คาสตีลส์ และมีจังหวะอีกหลายๆ ครั้ง แต่ โวล์ฟสบวร์ก ก็ยังหาโอกาสให้กับตัวเองได้สามครั้ง ก่อนที่จะโดนทีเด็ดท้ายเกมจาก โจชัว เซิร์คกี้ ดาวรุ่ง ในนาทีที่ 85 และ บาเยิร์น มิวนิค มาได้ประตูปิดกล่องจากจังหวะที่ โธมัส มุลเลอร์ ผ่านบอลให้ แซร์ก กนาบรี่ ในนาทีที่ 89
ปัจจุบัน บาเยิร์น มิวนิค รั้งอันดับสามใน บุนเดสลีก้า ตามหลัง ไลป์ซิก อยู่สี่คะแนน และเกมต่อไปของพวกเขาจะเป็นแมตชืกระชับมิตรในช่วงปีใหม่
ลิงค์สำรอง ดาฟาเบท