กุนซือทีมชาติเวลส์อย่างไรอัน กิ๊กส์ เชื่อว่านักเตะดาวรุ่งหลายๆ คนควรได้รับโอกาสโชว์ฝีเท้าในระดับนานาชาติแม้ว่าเขาจะยืนยันว่าเหล่านักเตะดาวรุ่งนั้นจะต้องมีมีการลงสนามกับนักเตะมากประบสบการณ์ด้สยเพื่อความสมดุลของทีม

อดีตปีกซ้ายดาวดังของปิศาจแดงได้รับหน้าที่คุมทีมชาติเวลส์บ้านเกิดของเขาเมื่อวันที่ 15 ม.ค. 2561 ที่ผ่านมารับไม้ต่อจากคริส โคลแมน ที่ออกไปคุมซันเดอร์แลนด์เมื่อเดือน พ.ย. ปีที่แล้ว

กิ๊กส์วัย 44 ปีเคยคว้าแชมป์ลีกกับแมนฯยูไนเต็ดได้ถึง 13 ครั้งในขณะที่เขาค้าแข้งอยู่ที่นั่น โดยนัดแรกที่ขับหน้าที่กุนซือนั้นก็สามารถโชว์ผลงานได้อย่างน่าประทับใจมากๆ ด้วยการพาเวลส์ถล่อมจีนขาดลอย 6-0 เมื่อเดือนมี.ต. ที่ผ่านมา

โดยนัดนั้นซุปเปอร์สตาร์ของทีมจากเรอัล มาดริดอย่างแกเร็ธ เบล ทำแฮตทริกได้ ซึ่งนั่นถือเป็นรส่วนสำคัญที่ทำให้ทีมโชว์ฟอร์มเฉียบคว้าชัยแบบขาดลอย ส่วนแซม โวคส์ ก็สามารถเป็นผู้ซัดประตูได้เช่นกัน ปิดท้ายด้วยดาวรุ่งจากลิเวอร์พูลอย่างแฮร์รี่ วิลสันที่ซัดประตูชัยสุดสวยงามให้กับเวลส์

หลังจากนั้นเวลส์พ่ายต่ออุรุกวัย 1-0 ซึ่งทั้งสองนัดกิ๊กส์ได้มีแผนการจัดทีมลงสนามโดยส่งผู้เล่นมากประสบการณ์อย่างโจ อัลเลน, แอชลีย์ วิลเลียมส์ และแอนดี้คิง ลงสนามประคับประคองดาวรุ่งในทีมไปด้วยเช่นกัน
โปรแกรมนัดต่อไปที่กิ๊กส์จะพาทีมชาติเวลส์ลงสนามคือนัดกระชับมิตรกับเม็กซิโกที่แคลิฟอร์เนียร์ในวันที่ 29 พ.ค. นี้ โดยเวลส์จะขาดดาวดังอย่างเบล, อัลเลน และเจมส์ เชสเตอร์ ในนัดนั้น

ซึ่งกิ๊กส์ได้ออกมาเผยว่าเขาจะเลือกนักเตะดาวรุ่งลงสนามในนัดต่อไปแม้ว่าเขาจะตระหนักดีว่านักเตะดาวรุ่งนั้นจะต้องลงสนามควบคู่ไปกับเหล่านักเตะมากประสบการณ์เพื่อความสมดุลในทีม

“ผมเชื่อในการให้โอกาสเหล่าดาวรุ่ง” กิ๊กส์กล่าวจั่วหัวสั้นๆ กับทางสกายสปอร์ต

“แน่นอนว่านักเตะที่มีประสบการณ์นั้นย่อมสำคัญกับทีมและผมก็ต้องให้พวกเขานั้นลงสนามร่วมกับดาวรุ่ง อย่างเช่นที่ผมเคยทำมาก่อนหน้านี้ที่จีน ผมส่งนักเตะมากประสบการณ์กับดาวรุ่งผสมกัน และพวหเขาก็ช่วยเหลือกันได้เป็นอย่างดี”

เป้าหมายใหญ่ของกิ๊กส์คือต้องการพาเวลส์ได้สิทธิ์ลงเล่นศึกยูโร 2020 ซึ่งจะต้องลงแข่งขันรอบคัดเลือกก่อน โดยขณะนี้เวลส์มีอัตราต่อรองที่จะคว้าแชมป์ยูโร 2020 อยู่ที่ 67.00