หลังจากถูกส่งลงเล่นทีมชาตินัดแรกในเกมกระชับมิตรเมื่อวันพุธที่สนามเอสตาดิโอ ดา ลุซ เนโต้ช่วยให้ทีมขึ้นนำตั้งแต่ต้นเกม โดยเปาลินโญ่กองหน้าบราก้าก็ยิงเพิ่มได้หลังจากนั้นไม่นาน ส่วนโรนัลโด้ที่พลาดโอกาสทองก่อนจะยิงประตูที่ 6 ให้โปรตุเกสลงมาเป็นสำรอง จัดประตูแรกให้ซานเชสในเกมทีมชาตินับตั้งแต่ยูโร 2016 จากนั้นเปาลินโญ่ก็มายิงเพิ่มอีกประตูได้
เอมิลี่ การ์เซียทำเข้าประตูตัวเองในขณะที่กองหลังอันดอร์ร่าแตกเป็นเสี่ยงๆจากคุณภาพในการทำลายล้างของโปรตุเกส โดย เจา เฟลิกซ์ ยิงประตูปิดกล่องในช่วงท้ายเกม โปรตุเกสใช้เวลาแค่ 8 นาทีในการเบิกสกอร์แรกและเนโต้ก็คว้าโอกาสในการยิงประเดิมประตูแรก โดยดาวรุ่งวูล์ฟส์ฯซัดฮาล์ฟวอลเลย์หลังจากประสานงานกับแซร์โจ้ โอลิเวร่าและเปาลินโญ่
ซานเชสเกือบที่จะได้ประตูจากการยิงไกลซึ่ง โจเซฟ โกเมส ผู้รักษาประตูเซฟเอาไว้ได้แต่เขาก็ไม่สามารถป้องกันเสียประตูที่สองจากการจิ้มด้วยหัวเกือกของเปาลินโญ่
โรนัลโด้น่าจะทำได้ดีกว่านี้หลังจากลงมาเป็นสำรองในครึ่งเวลาแรก โดยสตาร์ยูเวนตุสโหม่งจากระยะใกล้อย่างไรก็ตามเขามีส่วนกับประตูที่ 3 ของโปรตุเกสหลังนาทีที่ 56 ช่วยให้ซานเชสยิงเปิดทางให้กับอีกหลายประตู ลูกโหม่งที่ยอดเยี่ยมของเปาลินโญ่จากการเปิดของมาริโอ รุยทำให้โปรตุเกสได้ประตูที่สี่หลังผ่านครึ่งชั่วโมงไป ก่อนที่โรนัลโด้จะพยายามอีกครั้ง
กัปตันทีมโปรตุเกสและเจ้าของสถิติดาวซัลโวสูงสุดคิดว่าเขายิงประตูได้อีกลูกเมื่อเขาจ่ายให้วิลเลี่ยม คาร์วัลโญ่ ทว่าธงล้ำหน้าทำให้การฉลองเกิดขึ้นเพียงสั้นๆ ถึงอย่างนั้นโปรตุเกสก็ได้ประตูที่ 5 เมื่อการ์เซียเปลี่ยนทิศทางจากลูกเปิดข้ามโกเมสของ แบร์นาโด้ ซิลวา หลังจากมีโอกาสใสๆท้ายที่สุดโรนัลโด้ก็ได้ประตูเมื่อโหม่งใกล้ๆ โดย เจา เฟลิกซ์ ตัวสำรองก็มายิงประตูปิดท้ายในนาทีที่ 88
เป็นอีกครั้งที่โปรตุเกสพิสูจน์ให้เห็นพวกเขาแข็งแกร่งจากคุณภาพที่สูงในทีมแม้ว่าไม่มีโรนัลโด้ในรายชื่อตัวจริง มันเป็นความยินดีที่พวกเขาเล่นได้ดีโดยที่ไม่มีแข้งสัญลักษณ์ของทีม
ลิงค์สำรอง ดาฟาเบท