ประตูช่วงทดเวลาของเจอร์มาน เปซเซลลา ทำให้ คิโรน่า ไม่สามารถเอาชนะเรอัล เบติสได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2010 หลังจากทั้งสองทีมจบลงด้วยผลเสมอ 1-1

กิโรน่า รั้งจ่าฝูงของลาลีกาโดยมีช่องว่างเหนือเรอัล มาดริด 2 แต้ม และพวกเขาต้องการชัยชนะเพื่อขยายเป็น 5 แต้ม ก่อนที่ เรอัล มาดริด จะบุกไปเยือนอลาเบสในเย็นวันพฤหัสบดี คิโรน่า แสดงให้เห็นว่าทำไมพวกเขาถึงเป็นทีมที่มีฟอร์มดีที่สุดของลาลีกาเมื่อพวกเขาครองเกมได้ในช่วงแรกๆ

อย่างไรก็ตาม เมื่อเจอกับหนึ่งในแนวรับที่โหดที่สุดในลาลีกาฤดูกาลนี้ กิโรน่า พยายามอย่างหนักที่จะยิงประตูให้ได้ใน 20 นาทีแรก

เรอัล เบติส ก็มีโอกาสเช่นกันแต่ล้มเหลว และพวกเขาต้องจ่ายราคาแพงสำหรับความผิดพลาด เนื่องจากการทำฟาวล์ของไอตอร์ รุยบาลต่อ ปาโบล ตอร์เร ในกรอบเขตโทษส่งผลให้ได้จุดโทษ ซึ่ง ดอฟบีค ซัดเข้าไปอย่างมั่นใจ

ชาวยูเครนน่าจะยิงอีกประตูเพื่อปิดผนึกทั้งสามแต้มในภายหลัง แต่เขาล้มเหลวในการยิงเข้าเป้าด้วยการโจมตีที่ต่ำ

กิโรน่า อยู่ในเส้นทางที่ดีที่จะยุติสถิติไม่แพ้ใครแปดนัดของ เบติส ที่บ้านของพวกเขาที่ เอสตาดิโอ เบนิโต้ บิญามารินจนกระทั่ง เปซซาญ่า ยิงตีเสมอให้กับ เรอัล เบติส ในนาทีที่ 88

ผลการแข่งขันเสมอกัน 1-1 ของ กิโรน่า ทำให้ เรอัล มาดริด ที่ต้องเล่น 10 ตัวกับ อลาเบส แต่ได้ ลูคัส วาสเกซ ยิงประตูในช่วงทดเวลาบาดเจ็บเพื่อช่วยให้ทีมลอส บลังโกสได้สามแต้มหลังจากใบแดงของนาโช่ เฟอร์นันเดซในนาทีที่ 54

การเก็บสามแต้มเต็ม ขึ้นไปเป็นจ่าฝูง ลา ลีกา โดยมี 45 คะแนน เท่ากับ กิโรน่า แต่ได้เปรียบเรื่องประตูได้เสีย

เกมถัดไปของ เรอัล มาดริด คือในเดือนมกราคม ปี 2024 ในเกมเหย้ากับ มายอร์ก้า ในลาลีกา ขณะที่ กิโรน่า หวังว่าจะได้ลุ้นแชมป์ต่อกับ แอตเลติโก มาดริด ในเดือนมกราคม