ฝรั่งเศสเป็นแชมป์สมัยที่ 2 ของยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก เมื่อพวกเขาพลิกกลับมาแซงเอาชนะสเปน 

เลอ บลูส์ ดีกรีแชมป์ฟุตบอลโลก พลิกกลับมาเอาชนะเบลเยียม 3-2 ในรอบรองชนะเลิศ และพวกเขาก็ทำได้อีกครั้งในรอบชิงชนะเลิศที่ซาน ซิโรเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

สเปนขึ้นนำในนาทีที่ 64 ของเกม จาก มิเกล โอบาร์ซาบัล ของ เรอัล โซเซียดาด 

อย่างไรก็ตามถัดมาสองนาที ฝรั่งเศส ก็มาตีเสมอได้เมื่อ เอ็มบัปเป้ จ่ายบอลให้ คาริม เบนเซม่า ยิงประตูเข้าไป 

ก่อนหมดเวลา 10 นาที เอ็มบัปเป้ ยิงให้ฝรั่งเศสขึ้นนำ แม้ว่าจะต้องลุ้นจาก VAR ว่าล้ำหน้าหรือไม่ แต่ในที่สุดก็เป็นประตู

ฝรั่งเศสไม่แพ้ใครในการแข่งขัน 25 เกมหลังสุด โดยมีเพียง 27 เกมที่ทำได้ดีกว่าระหว่างกันยายน 1994 ถึงมีนาคม 1999

ฝรั่งเศสจะพบกับคาซัคสถานและฟินแลนด์ในช่วงพักเบรกทีมชาติเดือนพฤศจิกายนสำหรับรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายของพวกเขา

สเปน จะพบกับ กรีซ และ สวีเดน ในการแข่งขันระดับนานาชาติครั้งต่อไปในเดือนหน้า

ในขณะเดียวกัน แชมป์ยุโรป อิตาลี จบการแข่งขันในอันดับสามหลังจากเอาชนะ เบลเยียม 2-1 ในบ่ายวันอาทิตย์

หลังทำประตูได้ในครึ่งแรก นิโคโล่ บาเรลลา ทำประตูทันทีหลังจากรีสตาร์ทเพื่อให้แชมป์ยุโรปขึ้นนำ

อิตาลี หนีห่างเป็น 2-0 จาก โดมินิโก้ เบราร์ดี้ ทำประตูในนาทีที่ 65 จากจุดนั้น ขณะที่ ชาร์ลส เดอ เคเตแลร์ จาก คลับ บรูช ยิงให้ เบลเยียม ไล่ขึ้นมา แต่ไม่ทัน จบเกม เบลเยียม เอาชนะไปได้ 2-1 

อิตาลี จะเล่นที่บ้านของ สวิตเซอร์แลนด์ และ ไอร์แลนด์เหนือ ในเดือนพฤศจิกายน ขณะที่ เบลเยียม จะเป็นเจ้าภาพเจอกับ เอสโตเนีย และเดินทางไป อังกฤษ เพื่อพบกับ เวลส์ ในการแข่งขันรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกปี 2022