กุนซือทีมสาลิกาดงนิวคาสเซิลอย่างราฟาเอล เบนิเตซ เผยว่าเขายังไม่สามารถเลือกได้ว่าจะให้ใครเป็นผู้ชนะในนัดชิงถ้วยศึกแชมเปี้ยนส์ลีก แต่หวังจะได้เห็นการต่อสู้ที่ดุเดือดระหว่างทั้งสองทีม

เบนิเตซซึ่งเคยรับหน้าที่คุมทั้งเรอัล มาดริด และลิเวอร์พูลมาก่อนหน้านี้เชื่อว่านี่คือคู่ชิงที่สมศักดิ์ศรีและมั่นใจว่าการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศศึกแชมเปี้ยนส์ลีกคราวนี้จะต้องสนุกมากๆ แน่นอน

เขาเคยรับหน้าที่กุนซือคุมราชัญชุดขาวช่วงสั้นๆ 6 เดือน แต่ผู้คนต่างรู้จักเบนิเตซในนามของผู้จัดการทีมที่ประสบความสำเร็จเป็นอบย่างดีกับลิเวอร์พูลซึ่งเขาเคยนำทัพหงส์แดงคว้าแชมป์รายการนี้มาครองได้เมื่อปี 2005

ทางด้านเรอัล มาดริดกระหายแชมป์เป็นอย่างมากและต้องการคว้าถ้วยแชมป์ให้ได้เป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกัน โดยเรอัล มาดริดนั้นจะเกินฟ้าไปลงเตะนัดชิงชนะเลิศที่กรุงเคียฟในฐานะทีมที่มีภาษีดีกว่าเล็กน้อยแม้ว่าลิเวอร์พูลเองนั้นก็ดูพร้อมมากเช่นกัน

ลิเวอร์พูลคือทีมที่ทำประตูได้มากที่สุดในแชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาลนี้และพวกเตรียมพกความมั่นใจเต็มร้อยในการล้มแชมป์เก่าอย่างเรอัล มาดริดให้ได้

เบนิเตซกุนซือวัย 58 ปีรู้สึกว่าทั้งสอวงทีมต่างมีคุณภาพและมีศักยภาพมากพอที่จะคว้าแชมป์ไปครองได้

เขากล่าวว่า “มันจะเป็นแมตช์ที่น่าสนใจสุดๆ” “การที่ได้เห็นเรอดัล มาดริด ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศด้วยการเอาชนะทั้งยูเวนตุสและบาเยิน์น มิวนิค มาได้นั้นทำให้เราได้เห็นถึงประสิทธิภาพของทีมที่คับคั่งไปด้วยคุณภาพ เขากล่าวในฐานะของอดีตกุนซือที่คุ้นเคยกับราชัญชุดขาวมาก่อน

“ในทางกลับกัน ลิเวอร์พูลนั้นก็เป็นทีมทื่ดุดัน, มีเกมส์การเล่นที่เข้มข้น รวมไปถึงคุณภาพจังหวะการทำเกมส์ ซึ่งความท้าทายในพรีเมียร์บีกนั้นก็เป็นอีก 1 ตัวช่วยที่ทำให้หงส์แดงแข็งแกร่งเบียดเอาชนะโรม่าเข้ารอบชิงชนะเลิศมาได้สำเร็จ”

“ทีมใดทำประตูได้ก่อน แน่นอนว่าทีมนั้นจะได้เปรียบทันที ผมรักทั้งสองทีมนี้มากและผมก็ยังเลือกไม่ได้จริงๆ ว่าใครจะเป็นฝ่ายคว้าแชมป์ไปครอง เพราะทั้งสองทีมนั้นต่างมีดีทั้งคู่”

เรอัล มาดริด มีอัตราต่อรองคว้าชัยในกรุงเคียฟ ประเทศยูเครนและคว้าแชมป์ไปครองที่ 2.20 ขณะที่ผลเสมอนั้นมีอัตราต่อรองที่ 3.60 ส่วนลิเวอร์พูลอัตราต่อรองในการเอาชนะอยู่ที่ 3.00