อูไน เอเมรี่ ตั้งเป้าพาปืนใหญ่ไปแชมเปี้ยนส์ลีก


กุนซือใหม่ถอดด้ามของอาร์เซนอลอย่าง อูไน เอเมรี่ รีบจัดการตั้งเป้าหมายหวังพาทีมหวนคืนสู่ศึกแชมเปี้ยนส์ลีกด้วยการสร้างทีมให้แกร่งขึ้นเพื่อคว้าท้อป 4 ของตารางพรีเมียร์ลีกให้ได้

หลังจากปืนใหญ่พลาดท่าไม่ติด 1 ใน 4 ของตารางในศึกพรีเมียร์ลีกฤดูกาลล่าสุดและยังพ่ายต่อแอตเลติโก้ มาดริด กระเด็นตกรอบรองชนะเลิศ ศึกยูโรป้าลีก ส่งผลให้ปืนใหญ่ปิดประตูตายในการคว้าโอกาสลุยศึกแชมเปี้ยนส์ลีกไปโดยปริยาย

เอเมรี่ได้รับประกาศแต่งตั้งให้รับหน้าที่กุนซืออาร์เซนอลต่อจากอาแซน แวงเกอร์ที่สนามเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เมื่อวันพุธ
หลังแวงเกอร์ปลดระวางตัวเองออกจากการคุมทัพปืนใหญ่มายาวนานกว่า 22 ปี

ซึ่งการพาทีมหวนคืนสู่ฟุตบอลรายการใหญ่ที่สุดในยุโรปคือเป้าหมายสำคัญสุดของอดีตกุนซือเปแอชเช่อย่างเอเมรี่

“เป้าหมายของพวกเราคือต้องเป็นหนึ่งในทีมที่ยอดเยี่ยมที่สุดในยุโรป เราต้องการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกและต้องการสิทธิ์ลงเตะศึกแชมเปี้ยนส์ลีกที่เป็นการชิงชัยรายการใหญ่ที่สุดของทวีป” เอเมรี่ กล่าว
“และผมยังต้องการให้เหล่านักเตะทุกคนทำผลงานให้แฟนๆ ภาคภูมิกับทีมให้ได้ ผมรู้ดีว่าแฟนๆ ของอาร์เซนอลนั้นต่างก็รักและภูมิใจในทีมอยู่แล้ว แต่ผมต้องการทำให้ได้มากกว่านั้นอีก”

“ผมเชื่อมั่นในตัวนักเตะที่เรามีอยู่ตอนนี้ เป้าหมายสำคัญคือเราจะต้องร่วมมือกันสร้างผลงานให้สุดยอด”

หากกล่าวถึงถ้วยรางวัลที่อาร์เซนอลได้รับนั้นในช่วงทศวรรษที่ผ่านมานั้น พวกเขาทำได้เพียงคว้าถ้วยเอฟเอ คัพ 3 สมัย อีกทั้งฤดูกาลสุดท้ายของปืนใหญ่ภายใต้การนำทัพโดยแวงเกอร์นั้นกลับไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่ควรในศึกพรีเมียร์ลีก

เอเมรี่ได้เผยว่าเขาตั้งใจที่จะทำให้อาร์เซนอลเป็นทีมที่น่าเกรงขามและเป็นทีมแถวหน้าของพรีเมียร์ลีกให้ได้

“ทุกๆ ถ้วยแชมป์ ทุกๆ รายการล้วนสำคัญสำหรับผมทั้งหมด ผมเชื่อว่าเราสามารถคว้าแชมป์ได้และแน่นอนผมต้องการเป็นหนึ่งในทีมที่ร่วมฟาดฟันแย่งชิงถ้วยแชมป์ในทุกๆ รายการ”

“ผมยังไม่ขอสัญญาอะไรในวันนี้ว่าเราจะคว้าแชมป์ให้ได้แต่ผมสามารถให้สัญญาได้ว่าผมและเหล่านักเตะทุกคนจะร่วมมือกันสร้างผลงานให้ยอดเยี่ยมที่สุด เราจะผนึกกำลังกันและสู้เพื่อเป้าหมายที่เราคาดหวังไว้”

มากกว่านั้นเอเมรี่ได้กล่าวว่าเขาจะต้องพูดคุยกับนักเตะทุกคนในทีมแบบตัวต่อตัวเพื่อกำหนดชี้แนะเป้าหมายที่จะต้องทำในอนาคต โดยอาร์เซนอลมีอัตราต่อรองคว้าแชมป์ศึกพรีเมียร์ลีกฤดูกาลหน้าอยู่ที่ 26.00

Leave a comment