โรเมลู ลูกากู กองหน้า เอฟเวอร์ตัน มุ่งมั่นที่จะคืนฟอร์มเก่งหลังจบฤดูกาลด้วยผลงานที่น่าผิดหวัง และยกเครดิตให้กับ โรเบร์โต้ มาร์ติเนซ นายใหญ่ ที่อย่างน้อย ช่วยให้เขาจบฤดูกาลในอันดับที่ไม่ตกต่ำนัก

ความคาดหวังยิ่งใหญ่ที่ ลูกากู และ เอฟเวอร์ตัน ต้องแบกรับเมื่อฤดูกาลที่แล้ว หลังจากในฤดูกาล 2013/14 ลูกากู ถูกยืมตัวมาจาก เชลซี และทำ 15 ประตูจากที่เขาลง 33 เกมมาช่วย”ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน”ไว้ให้จบในอันดับที่ 5 ในตาราง

แน่นอนว่าฟอร์มนั้นของเขาไม่ได้มาด้วยความบังเอิญ เขาทำได้ 17 ประตูใน 35 เกมที่ลงเล่นให้กับ เวสต์บรอมวิช แบบยืมตัว และนั่นยิ่งเป็นการย้ำเตือนท็อฟฟี่ให้ดึง ลูกากู มาอยู่แบบถาวรซัมเมอร์นี้ด้วยค่าตัว 28 ล้านปอนด์

อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างดูจะไม่เป็นไปตามแผนที่ กูดิสัน พาร์ค เมื่อฤดูกาลที่แล้ว เมื่อท็อฟฟี่ลงไปร่วมสู้ศึกหนีตายจนเกือบจบฤดูกาล และในตอนนั้นเอง ลูกากูถึงรู้ตัวว่าไม่ได้เป็น 11 ตัวจริงที่ลงสนาม

ลูกากู รู้สึกว่าเขาได้เรียนรู้อะไรมากมายจากประสบการณ์นี้และเชื่อว่าสิ่งนี้จะทำให้เขากลายมาเป็นนักเตะที่ดีขึ้น

“(มาติเนซ)ไม่ใส่ชื่อผมเป็นตัวจริงอยู่ 2 เกมช่วงธ.ค. และผมคิดว่านั่นคือการเสียงปลุกชั้นดีที่ทำให้ผมกลับมาดูที่ตัวเอง มองดูตัวเองในกระจกแล้วพูดว่า’โรม, ตอนนี้นายเล่นได้ไม่ดีเลยนะ นายต้องเคร่งกับตัวเอง นายต้องฝึกให้หนักกว่านี้’ แม้ว่าผมจะฝึกหนักอยู่แล้ว แต่ผมคงต้องทุ่มเทมากกว่านี้” เขาให้สัมภาษณ์กับ พรีเมียร์ ลีก เวิล์ด

“นั่นเป็นสิ่งที่คุณต้องเรียนรู้ในฐานะผู้เล่นอายุน้อย ที่เมื่อบางอย่างไปได้ไม่สวยเท่าไหร่ คุณต้องเป็นคนกระตุ้นตัวเอง ทำงานหนัก ทำทุกอย่างเพื่อกลับมาอยู่ในรายชื่อตัวจริงอีกครั้ง โดยที่รับรู้ว่าทีมคือสิ่งที่สำคัญที่สุด”

เอฟเวอร์ตัน ชนะ 6 จาก 10 เกมล่าสุดในศึก พรีเมียร์ ลีก ฤดูกาลล่าสุด พร้อมจบที่อันดับ 11 โดยมีดาวยิงทีมชาติเบลเยี่ยมที่สามารถกวาดประตูได้เกือบครึ่งของเกมที่ลงเล่น

“ผมว่าหลายคนคงสงสัยในคุณภาพที่ผมมี คิดเรื่องที่ผมจะย้าย(จาก เชลซี) ราคาค่าหัวและอื่นๆ แต่ผมว่าผมไม่ใช่คนพูดมาก ผมก็แค่ทำงานของผมต่อไป และโฟกัสสิ่งที่จะช่วยเพื่อนร่วมทีมของผม”