มาร์ติเนซ ชี้ ความกระหายในชัยชนะ คือกุญแจสำคัญของ เบลเยียม


โรเบร์โต้ มาร์ติเนซ กุนซือใหญ่ทีมชาติเบลเยียม ออกมายอมรับว่าความกระหายในชัยชนะของลูกทีมคือกุญแจสำคัญที่ทำให้ผ่าน ญี่ปุ่น เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายมาได้ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

ในรอบแบ่งกลุ่ม เบลเยียมทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมหลังจากเก็บ คว้า 9 คะแนนเต็ม และเอาชนะ ญี่ปุ่น ในนัดที่สี่ ทำสถิติคว้าชัยได้ร้อยเปอเซนเต็ม

อย่างไรก็ตามนัดที่เจอ ญี่ปุ่น ที่ รอสตอฟ ไม่ง่ายอย่างที่คิด และต้องทำงานกันหนักกว่าจะผ่านเข้ารอบมาได้ ในแมตช์ดังกล่าว เควิน เดอ บรอยน์ โดยปิดพื้นที่ไม่ให้สร้างเกมได้ เช่นเดียวกับ เอเด็น อาซาร์ และ โรเมลู ลูกากู ก็โดนปิดตายเช่นกัน

ในช่วงต้นครึ่งหลังเป็น ญี่ปุ่น ที่ทำผลงานได้ดีกว่า ออกนำไปก่อน 2-0 อย่างรวดเร็ว จาก เก็งกิ ฮารากูชิ และ ทาคาอิ อินูอิ ตอนนาที 52 ทำให้ โรเบร์โต้ มาร์ติเนซ ต้องรีบแก้เกมส่ง มารูยาน เฟลไลนี่ และ นาเซอร์ ชาดลี่ ซึ่งทั้งคู่สามารถลงมาเปลี่ยนรูปแบบเกมได้ และเป็น เบลเยียม ที่ไล่ขึ้นมาเป็น 1-2 จากการโหม่งของ แยน แฟร์ตองเก้น

ช่วง 15 นาทีสุดท้าย เฟลไลนี่ ทำประตูตีเสมอให้กับ เบลเยียม และ 4 นาทีสุดท้าย เบลเยียม ได้จังหวะโต้กลับ เป็น นาเซอร์ ชาดลี่ ที่รับบทฮีโร่ ส่ง เบลเยียม พลิกเอาชนะ ญี่ปุ่น ไปได้แบบสุดมัน 3-2

ด้วยผลการแข่งขันแบบนี้ทำให้ เบลเยียม ถูกปรับราคาเต็งแชมป์ฟุตบอลโลก แทง 1 จ่าย 6.50 เท่า ทันที อย่างไรก็ตามพวกเขาต้องผ่านด่านหน้าที่จะไปเจอของแข็งอย่าง บราซิล ในรอบ 8 ทีมสุดท้ายให้ได้ก่อนในวันจันทร์

มาร์ติเนซ กล่าวผ่านสื่อหลังเกมว่า “ถ้าคุณดูสถิติ มันมีไม่กี่เกมหรอกนะ ที่ฝ่ายตาม 0-2 จะกลับมาได้ นี่มันเป็นเรื่องทัศนคติ และความกระหายในชัยชนะที่จะไม่ยอมแพ้ของนักเตะ ซึ่งพวกเขาทำให้ 90 นาทีนี้เป็นช่วงเวลาที่น่าทึ่ง จุดที่จะเห็นได้ชัดคือประตูที่สาม เราได้จังหวะโต้กลับเร็ว พวกเขาใช้เวลาแค่
6 วินาที ถึงกรอบเขตโทษคู่แข่ง และ ลูกากู ก็ไม่เห็นแก่ตัว ปล่อยบอลผ่านให้ ชาดลี่ ทำประตูชัยให้กับเรา”

Leave a comment