หลุยส์ ฟาน กัล ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอมรับว่าเขากดดันหนักยิ่งขึ้นหลังจากที่วันเสาร์ที่ผ่านมาทีมแพ้คาบ้านต่อนอริช
โดยในฤดูกาลนี้ปีศาจแดงถูกวิจารณ์ถึงฟอร์มการเล่นอย่างหนัก และล่าสุดดูเหมือนพวกเขาจะย่ำแย่ลงเรื่อยๆ

ซึ่งความพ่ายแพ้เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา นอกจากจะเป็นความปราชัย 3 นัดรวดแล้ว ยังส่งผลให้พวกเขาหลุดจาก 4 อันดับแรกเป็นที่เรียบร้อย

ทั้งนี้แมนฯยูไนเต็ดยังคงเป็นตัวเต็งคว้าตั๋วไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาลหน้าที่เรท 1.70 แต่กระนั้นหากพวกเขาต้องการจะประสบความสำเร็จในฤดูกาลนี้ พวกเขาต้องเร่งคืนฟอร์มเก่งโดยด่วน

และเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเชลซีได้ทำการปลด โชเซ่ มูรินโญ่ ออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีม ซึ่งยิ่งเป็นการเพิ่มแรงกดดันให้ ฟาน กัล เนื่องจากข่าวล่าสุดระบุว่าบรรดาผู้บริหารของทีมอาจดึงกุนซือชาวโปรตุเกสมาแก้ปัญหาในถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แทน

เกมต่อไปปีศาจแดงจะต้องพบกับงานยากอีกครั้งในการบุกไปเยือน สโต๊ค ซิตี้ โดยพวกเขามีโอกาสชนะที่เรท 2.20 และ 3.20 หากเสมอ แต่หากช่างปั้นหม้อคว้า 3 แต้มเต็มจ่าย 3.30

ฟาน กัล ยอมรับว่าแรงกดดันดังกล่าวส่งผลเสียต่อผลงานในสนามของพวกเขา แต่เขาก็ยืนกรานว่าสโมสรจะทำพลาดหากตัดสินใจไล่เขาออกจากทีมในช่วงนี้

“นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ ผมไม่อาจเมินเฉยกับมันได้” ฟาน กัล เผยผ่านผู้สื่อข่าว “นั่นคือโลกฟุตบอล ทั้งผม บอร์ดบริหาร และผู้เล่นต่างรู้เรื่องนี้ดี แต่เราไม่คุ้นเคยกับมัน เพราะปกติเรามักจะชนะ ดังนั้นเวลานี้จึงเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับเรา”

“ผมไม่คิดว่าการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งผู้จัดการทีมจะนำมาซึ่งความสำเร็จ แต่นั้นคือสิ่งที่ผมเชื่อ บางทีมันอาจจะไม่ใช่สิ่งที่น่าสนใจเท่าไหร่นัก”