อลัน พาร์ดิว ผู้จัดการทีม คริสตัล พาเลซ ออกโรงต่อว่า คริสเตียน เบนเทเก้ ในจังหวะที่เขาถูกเสียบล้มในเขตโทษจนเป็นเหตุให้ลิเวอร์พูลได้ประตูชัยในนาทีสุดท้ายถึงถิ่น เซลเฮิร์สต์ พาร์ค

ลูกทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ คว้า 3 คะแนนเต็มไปได้ในที่สุด แม้ว่าจะออกตามหลัง 1-0 จากประตูของ โจ เลดลีย์ หลังเริ่มครึ่งหลังได้ไม่นาน และสถานการณ์ก็เลวร้ายขึ้นเมื่อ เจมส์ มิลเนอร์ กัปตันทีมโดนใบแดงในนาทีที่ 63

จนในช่วงท้ายเกม โรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่ ฉวยโอกาสจากความผิดพลาดของ อเล็กซ์ แม็คคาร์ธีย์ ซัดตีเสมอให้ “หงส์แดง” ได้สำเร็จ และในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เบนเทเก้ตัวสำรองก็ล้มตัวลงจากจังหวะเข้าปะทะกับ แดเมี่ยน เดลานีย์ ในกรอบเขตโทษ

ด้านผู้ตัดสิน อลัน มาร์ริเนอร์ เกิดอาการสับสนว่าจะทำอย่างไรดี แต่เมื่อได้ทำการปรึกษาผู้ช่วยผู้ตัดสินที่เห็นเหตุการณ์ชัดกว่า เขาจึงตัดสินใจให้จุดโทษ และกองหน้าชาวเบลเยี่ยมก็ลุกขึ้นมายิงอย่างเฉียบขาดในที่สุด

ด้านพาร์ดิวออกมาเผยว่าเขาไม่เห็นด้วยกับการตัดสินนี้ พร้อมยืนยันว่าเดลานี่ย์สกัดโดนขาของเบนเทเก้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

“การสัมผัสไม่จำเป็นต้องทำให้ล้มเสมอไป มันเหลือเชื่อมากที่การกระทบกระทั่งแค่นั้นทำให้เขาถึงล้มตัวลง” เขาเผยกับผู้สื่อข่าว

“การพุ่งล้มทำให้ผู้กำกับเส้นตัดสินใจเช่นนั้น” กุนซือ “ดิ อีเกิ้ลส์” เผย “ผู้กำกับเส้นคิดว่าการแตะต้องตัวเพียงเล็กน้อยนั้นเป็นจุดโทษ”

ทำให้ขณะนี้พาเลซไม่ชนะใครในพรีเมียร์ลีกมาแล้ว 12 เกมรวด และพาร์ดิวยังกล่าวต่อไปว่าผู้ตัดสินจำเป็นต้องแน่ใจในสิ่งที่เห็นเสียก่อนจึงจะตัดสินใจใดๆออกมา

แม้ภาพรีเพลย์จะออกมาชัดเจนว่ามีการสัมผัสตัวกันจริง แต่พาร์ดิวก็ยังเคลือบแคลงใจไม่หาย และกล่าวว่าทีมของเขาไม่มีทางได้จุดโทษแน่ๆหากต้องเจอเหตุการณ์เช่นเดียวกันนี้

“คุณจำเป็นต้องแน่ใจ 100% จึงจะเผยคำตัดสินออกมา จากภาพช้าเราเห็นได้ว่าเข่าไปสัมผัสกับขาจริง และเขาล้มตัวลงราวกับถูกยิง” กุนซือวัย 54 ปีกล่าว

“ถ้ามันเกิดขึ้นกับเรา เราคงไม่ได้จุดโทษ”

ทั้งนี้ คริสตัล พาเลซ มีโอกาส 21.00 ในการตกชั้น และจากฟอร์มไม่ชนะใครมานานนี้ทำให้พวกเขาร่วงมาอยู่อันดับที่ 15 ของตาราง