พรีเมียร์ลีก กลับมาจากการพักเบรคทีมชาติด้วยหนึ่งในดาร์บีอันเป็นเอกลักษณ์ของวงการฟุตบอล โดยจะเริ่มต้นขึ้นในวันเสาร์แรก เมื่อลิเวอร์พูลเปิดบ้านรับเพื่อนบ้านเอฟเวอร์ตัน
การแข่งขันเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ของ พรีเมียร์ลีก โดยการแข่งขันครั้งนี้เป็นเกมที่มีใบแดงมากที่สุด (22 ใบ) และเสมอ 0-0 มากที่สุด (12 ใบ) การทำประตูที่ไร้ทางตันเหล่านั้นเป็นสาเหตุสำคัญของการเก็บคลีนชีต 26 แต้มของลิเวอร์พูลที่พวกเขาเก็บได้ในการเจอกับเอฟเวอร์ตัน ซึ่งถือเป็นจำนวนสูงสุดในการเจอกับคู่ต่อสู้ใดๆ ในขณะที่การเจอกับหงส์แดงนั้นท๊อฟฟี่ล้มเหลวในการทำประตูมากที่สุด
เจอร์เก้น คล็อปป์คงชอบการหยุดเล่นที่นี่อีกครั้ง เนื่องจากทีมของเขาเก็บคลีนชีตได้เพียงนัดเดียวจาก 10 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ลีก หงส์แดงบรรเทาผลกระทบจากเรื่องนี้ด้วยการทำประตูในแต่ละเกมจาก 18 เกมบนลีกสูงสุด แม้ว่าพวกเขาจะทำแต้มหล่นจากสองเกมลีกหลังสุด (เสมอ 1 แพ้ 1) ซึ่งทำให้พวกเขาหล่นลงมาอยู่อันดับสี่ของตาราง
สำหรับเอฟเวอร์ตัน ชัยชนะ 2 นัดจาก 3 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ลีก (แพ้ 1) ช่วยให้มีช่องว่างระหว่างพวกเขากับโซนตกชั้นเล็กน้อย ผลงานล่าสุดในการวิ่งครั้งนั้นคือการชนะบอร์นมัธ 3-0 ในขณะที่ครั้งล่าสุดที่ออกนอกบ้านในลีกพวกเขาคว้าชัยชนะ 3-1 ที่เบรนท์ฟอร์ด ทำให้ท๊อฟฟี่มั่นใจว่าพวกเขาสามารถคว้าชัยชนะกลับมาได้ ชัยชนะของ พรีเมียร์ลีก เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2021
ที่อื่นๆ ในวันเสาร์ อาร์เซนอลจะเดินทางไปสแตมฟอร์ด บริดจ์เพื่อเผชิญหน้ากับเชลซีในลอนดอนดาร์บี้ระหว่างสองทีมที่ต้องอดทนกับการออกสตาร์ทฤดูกาลที่แตกต่างกันสองครั้ง เชลซีเพิ่งเริ่มลงสนามได้เพียงสองสัปดาห์ก่อนพักเบรคทีมชาติ โดยคว้าชัยชนะ 2 นัดติดต่อกันเป็นครั้งแรกในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ หลังจากชนะฟูแล่มและเบิร์นลีย์
สำหรับอาร์เซนอล พวกเขายังคงเป็นหนึ่งในสองทีมที่ไม่แพ้ใครในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ แม้กระทั่งเอาชนะแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในเกมพรีเมียร์ลีกนัดล่าสุดก่อนพักเบรก
โปรแกรมวันเสาร์อื่นๆ จะเป็นเกมที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจะไปเยือนเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นเจ้าภาพไบรท์ตัน และนิวคาสเซิ่ลจะพบกับคริสตัล พาเลซ
ลิงค์สำรอง ดาฟาเบท