ลีโอเนล เมสซี่ ยิงประตูในช่วงท้ายเกมและฉลองอย่างสุดซึ้งในขณะที่บาร์เซโลน่าสนุกกับการเอาชนะอย่างดุดัน 4-0 ในลาลีกาที่เจอกับโอซาซูน่า เกมแรกในรังเหย้าของบาร์ซ่านับตั้งแต่การตายของ ดิเอโก้ มาราโดน่า อดีตผู้เล่นของสโมสร ทีมจากคาตาลันเก็บชัยชนะได้อย่างยอดเยี่ยมในเกมที่คัมป์ นู

เมสซี่เพื่อนร่วมชาติอาร์เจนติน่าของมาราโดน่า ยิงประตูสุดท้ายอย่างสวยงามในนาทีที่ 73 และฉลองด้วยการถอดเสื้อเชิ้ตเพื่อเปิดเผยให้เห็นเบอร์เสื้อหมายเลข 10 ในทีมเยาวชนของเขา นีเวลล์ส โอลด์ บอยส์ เป็นการยกย่องมาราโดน่าที่เคยเล่นในสโมสรเดียวกันในช่วงท้ายของอาชีพค้าแข้ง

มาร์ติน เบรทเวทยิงประตูแรกก่อนผ่านครึ่งชั่วโมงแรกโดย อองตวน กรีซมันน์ มายิงประตูที่สองจากลูกวอลเลย์อย่างสวยงามก่อนหมดครึ่งแรก ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ยิงให้ทีมนำห่างเป็น 3 ประตูในนาทีที่ 57 ก่อนที่เมสซี่จะยิงปิดเกม

กรีซมันน์สร้างโอกาสแรกให้บาร์ซ่าในเกมนี้ ผ่านบอลมาที่คูตินโญ่ที่เตรียมแปบอลแต่ความพยายามของเขาโดนอูไน การ์เซียกองหลังสกัดออกจากเส้น

แข้งฝรั่งเศสยังเดินหน้าต่อไปไม่กี่นาทีหลังจากนั้นและมีโอกาสยิงไกลแต่ เซร์กิโอ เอร์เรร่า ผู้รักษาประตูเซฟได้อย่างสวยงาม

บาร์เซโลน่าดุดันขึ้นเรื่อยๆ กรีซมันน์มีโอกาสยิงอีกครั้ง คราวนี้ปั่นออกนอกกรอบหลุดเสาไปและคูตินโญ่ก็ทดสอบเอร์เรร่าอีกครั้งแต่ก็โดนบล็อคเอาไว้ได้ เบรทเวทปลดล็อคได้สำเร็จในนาทีที่ 29 นาที เขาประสานงานกับคูตินโญ่และบังคับให้เอร์เรร่าต้องเซฟสองครั้งก่อนท้ายที่สุดจะส่งบอลไปกองก้นตาข่ายได้สำเร็จจากความพยายามครั้งที่สาม

10 นาทีต่อมา มาร์ค-อันเดร แตร์ สเตเก้นผู้รักษาประตูบาร์ซ่าต้องป้องกันลูกยิง 2 ครั้งจาก ออยเอร์ ซานฆูร์โฆ่ และ การ์เซีย ก่อนที่ความพยายามจากอันเต บูดิเมียร์ ผ่านเส้นประตูไปได้แต่มีการล้ำหน้าก่อนจังหวะนี้ทำให้ลูกนี้ไม่ได้ประตู

เจ้าบ้านเป็นฝ่ายที่ได้ประตูต่อมาในอีก 3 นาทีก่อนพักครึ่ง จอร์ดี้ อัลบาผ่านบอลมาแต่โดน ฆอน มอนกาโยล่า เคลียร์ก่อนที่กรีซมันน์จะตัดบอลได้และวอลเลย์อย่างสวยผ่านเอร์เรร่าที่สุดความสามารถที่จะเซฟ

จากนั้นมอนกาโยล่าพยายามจะวอลเลย์ในนาทีที่ 2 ของช่วงทดเวลาครึ่งแรก แต่ความพยายามของเขาไม่เข้าเป้าและไม่สร้างปัญหาให้แตร์ สเตเก้น หลังพักครึ่งไม่นาน เฟรงกี้ เดอ ย็อง ได้รับโอกาสยิงประตูที่ 3 ให้บาร์ซ่าจากลูกเปิดของเมสซี่ แต่ดัตช์แมนโหม่งไม่ตรงกรอบ

คูตินโญ่ยิงให้ทีมนำ 3-0 ในนาทีที่ 57 เมื่อเขาวิ่งไปกับเบรทเวทก่อนที่จะเข้าไปในกรอบเขตโทษและจิ้มบอลเข้าไปจากการผ่านแบบใจกว้างของกรีซมันน์ จากนั้นอดีตแข้งลิเวอร์พูลก็ถูกแทนที่ด้วยอุสมาน เด็มเบเล่ที่สร้างปัญหาได้อย่างรวดเร็วเมื่อเก็บบอลจาก ฟรานซิสโก้ ทรินเซา และเกือบจะทำประตูที่ 4 ให้บาร์ซ่าทว่าความพยายามของเขาไม่ได้รับอนุญาตจากวีเออาร์ที่บอกว่าจังหวะนี้ล้ำหน้าในช่วงขึ้นเกม

เจ้าถิ่นไม่ต้องรอนานอีกประตู โดยเมสซี่ยิงแบบไม่ต้องเซฟซึ่งลอยผ่านเอร์เรร่าในนาทีที่ 73 ประตูที่ยิงได้ทำให้เมสซี่กดให้บาร์ซ่าไปแล้ว 641 ประตูขาดอีก 2 ประตูก็จะเทียบเท่าสถิติเปเล่ที่ยิงให้สโมสรเดียวและเขาหยุดเพื่อแสดงความยกย่องมาราโดน่า เจ้าบ้านมีทีท่าจะยิงประตูที่ 5 ได้ในเวลาที่เหลือ เดมเบเล่ยิงเข้าข้างตาข่ายและเมสซี่กดดันเอร์เรร่าให้ต้องเซฟสวยๆจากลูกยิงฟรีคิกแต่ทั้งสองครั้งไม่เป็นประตู

โอซาซูน่าไม่สามารถสร้างความประทับใจก่อนกรรมการเป่านกหวีดหมดเวลาเป็นชัยชนะขาดของเจ้าถิ่น