บาร์เซโลน่าใกล้จะรักษาแชมป์ลาลีกาได้สำเร็จหลังไล่ถล่มเอสปันญ่อล 5-0 ในศึกคาตาลันดาร์บี้เมื่อวันเสาร์ที่คัมป์นู

ทีมของ หลุยส์ เอ็นริเก้ ยังคงนำเรอัล มาดริดอยู่ 1 คะแนนก่อนที่จะลงทำการแข่งขันลาลีกานัดสุดท้ายของฤดูกาลในสุดสัปดาห์นี้

ทางบาร์ซ่านั้นจะเดินทางไปเยือนกรานาด้าทีมอันดับ 16 ในขณะที่มาดริดจะบุกรังเดปอร์ติโบ้ที่อยู่อันดับ 13 ซึ่งทีมของ ซีเนอดีน ซีดาน เป็นฝ่ายทำได้ดีกว่าทางบาเลนเซียในเกมที่ยิงกันสลุด 5 ลูกที่เบร์นาเบวเมื่อช่วงบ่ายวันอาทิตย์ แต่ทางแอตเลติโก้ คู่แค้นร่วมเมืองกลับหมดสิทธิ์ลุ้นแชมป์ไปแล้วหลังพลาดท่าบุกไปแพ้ต่อเลบันเต้ที่ร่วงตกชั้นอยู่ก่อนหน้า

เฟร์นานโด ตอร์เรส ยิงให้ทีมของ ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ ออกนำเร็วแต่เจ้าบ้านตามตีเสมอสำเร็จก่อนหมดครึ่งแรกและจากนั้น จูเซ็ปเป้ รอสซี่ อดีตนักเตะของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มายิงประตูชัยในช่วงทดเวลาบาดเจ็บพร้อมกับดับฝันการลุ้นแชมป์ของทีมตราหมีไปโดยปริยาย

ในขณะที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซัด 2 ประตูและ คาริม เบนเซม่า กด 1 ลูกช่วยให้ทีมราชันชุดขาวเฉือนเอาชนะทีมค้างคาวที่เหลือ 10 คน

อย่างไรก็ตามทางทีมเจ้าบุญทุ่มกลับแทบไม่ต้องกังวลอะไรเมื่อ ลิโอเนล เมสซี่ มาปั่นฟรีคิกเข้าไปอย่างสุดสวยตั้งแต่นาทีที่ 8 ทำให้พวกเขาออกนำเอสปันญ่อลอย่างรวดเร็ว

ประตูของเมสซี่เป็นหนึ่งในห้าประตูที่เจ้าบ้านทำได้ โดยทางทีมเยือนทำได้เพียงถอยร่นกันไปตั้งรับอย่างเดียว

หลุยส์ ซัวเรซ มาเหมา 2 ประตูภายใน 9 นาทีในช่วงครบชั่วโมงเป็นการตอกฝาโลงใส่เอสปันญ่อลที่สมาธิแตกกระเจิงในครึ่งหลัง

นายทวาร เปา ซาบาต้า มาประเคนของขวัญให้กับ ราฟินญ่า กลายเป็นประตูที่สี่ในนาทีที่ 74 ในขณะที่ซัวเรซหันมารับบทคนจ่ายให้เนย์มาร์ซัดประตูปิดท้ายระยะเผาขนก่อนหมดเวลา 7 นาที

หลังจากที่ทีมตราหมีหลุดวงโคจรลุ้นแชมป์ไปแล้ว ก็เท่ากับว่าตอนนี้การลุ้นแชมป์จะเป็นการห้ำหั่นกันระหว่างบาร์ซ่าและเรอัล คู่แค้นตลอดกาล

โดยทีมแชมป์เก่ามีอัตราจะป้องกันแชมป์สำเร็จที่ 1.10 ขณะที่เรอัล มาดริด มีโอกาสจะฉวยความได้เปรียบหากบาร์ซ่าพลาดท่าแล้วแซงคว้าแชมป์อยู่ที่ 6.50