เอฟเอตัดสินใจตั้งข้อหาเล่นแรงเกินเหตุกับ ดิเอโก้ คอสต้า กองหน้าจอมฉาว จากเหตุการณ์ในแมตช์วันเสาร์ที่เชลซีเอาชนะอาร์เซน่อล 2-0
ทีม “สิงห์บลูส์” ที่มีอัตราตอบแทนในการป้องกันแชมป์อยู่ที่ 7.50 ได้เปรียบอย่างเห็นได้ชัดในเกมดังกล่าว เพราะอาร์เซน่อลทีมที่มีโอกาสคว้าแชมป์ที่อัตรา 6.50 เหลือผู้เล่นเพียง 10 คนจากการที่กาเบรียลไปมีเรื่องกับคอสต้าจนโดนใบแดงในที่สุด
และด้วยประตูของ เคิร์ท ซูม่า กับ เอแด็น อาซาร์ ทำให้เชลซีคว้าชัยได้สำเร็จ พร้อมกลับมาสู่เส้นทางลุ้นแชมป์อีกครั้งหลังจากออกสตาร์ทได้อย่างย่ำแย่ แม้จะขยับอันดับขึ้นมาอยู่แค่ตำแหน่งที่ 13 ของตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก
ในเกมดังกล่าวคอสต้ายังมีเหตุกระทบกระทั่งอื่นๆอีกมากมาย รวมไปถึงจังหวะปะทะกับกาเบรียลที่นำไปสู่ใบแดงในที่สุด
ซึ่งก่อนหน้านี้หัวหอกเชลซียังใช้มือผลักเข้าไปที่บริเวณใบหน้าของ โลร็องต์ กอสเซียลนี จนทำให้กองหลังชาวบราซิลทนไม่ไหวต้องเข้าไปพัวพันในที่สุด
สมาคมฟุตบอลอังกฤษยังตั้งข้อหากาเบรียลจากพฤติกรรมไม่เหมาะสมดังกล่าวด้วย และเตรียมปรับเงินทั้ง 2 ทีมที่ไม่สามารถควบคุมนักเตะในสังกัดได้
โดยผู้ตัดสิน ไมค์ ดีน ไม่ได้ลงโทษคอสต้าแต่อย่างใด ทำให้เอฟเอต้องลงมาจัดการเหตุการณ์ย้อนหลังนี้ด้วยตัวเอง
ซึ่งอดีตดาวดัง แอตเลติโก มาดริด มีเวลาถึง 6 โมงเย็นวันอังคารนี้เท่านั้น ในการยื่นอุธรณ์กรณีที่เขาไปผลักกอสเซียลนี
ทั้งนี้หลังจากแน่ชัดแล้วว่าผู้ตัดสินประจำเกมไม่ได้เห็นเหตุดังกล่าว ทางเอฟเอจึงเตรียมคลิปวิดีโอหลักฐานให้กับอดีตกรรมการชั้นนำ 3 ท่านที่ไม่ได้ข้องเกี่ยวกับสมาคมฯทำการตัดสินเคสนี้
หากคอสต้ายอมรับโทษ ก็จะทำให้เขาโดนแบนทันที 3 แมตช์ แต่หากเขาเลือกที่จะยื่นอุทธรณ์ เขาก็จะได้รับการตัดสินจากคณะกรรมการที่จะทำการชี้ขาดในภายหลัง
นัดต่อไปแชมป์เก่าพรีเมียร์ลีกจะพบกับวอลซอลล์ในศึกแคปิตอล วัน คัพ ตามมาด้วยเกมกับนิวคาสเซิ่ลและเซาแธมป์ตันเป็นโปรแกรมลีกนัดถัดไป
ลิงค์สำรอง ดาฟาเบท