ทั้งแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตกน้ำตาตกแพ้ต่อทีมคู่แข่งในศึกพรีเมียร์ลีกทั้งคู่ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ขณะที่เชลซี ได้เพียงกับเสอมกับสเปอร์ไป 1-1 ประตู
ประตูจาก มอร์กก็อง อามัลฟิตาโน่ และไซโด เบราฮิโน่ ทำให้ทีมเวสต์บรอม บุกมาเชือดทีมผีแดงคาโอลด์ แทร๊ฟฟอร์ดไป ได้ 2-1 ส่งผลให้การออกสตาร์ทในช่วงต้นฤดูกาลของทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเลวร้ายที่สุดในรอบ 24 ปี
ส่งผลให้ เดวิด มอยยส์ กุนซือคนใหม่ที่เข้ามาสืบทอดตำนานของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาเก้าอี้ร้อนทันที โดยเขากล่าวว่า แมนยูต้องผ่านสถานการณ์นี้และไปเริ่มต้นทำผลงานให้ดีให้ได้
เขากล่าวว่า “คุณจะรู้สึกแย่เสมอเพื่อผลการแข่งขันไม่ดีพอในเกมฟุตบอล ซึ่งคุณจะจัดการกับมันอย่างไร”
“เราจะเดินหน้าต่อไปและมองไปข้างหน้า ซึ่งมันยังคงมีเกมอีกมากมายที่นี่ และคุณจะได้รับมันในอนาคต”
“ผมกังวลหลังจากเกม ซึ่งมันเป็นเพราะว่าเราเล่นได้ไม่ดี เราสามารถทำได้ดีกว่านี้”
ขณะที่ มานูเอล เปเยกรินี่ ก็พาทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ออกไปแพ้ต่อทีมแอสตัน วิลล่าเช่นเดียวกัน 3-2 ประตู
โดยที่ ยาย่า ตูเร และ เอดิน เซโก้ ทำให้ทีมเยือนขึ้นนำไปก่อน 2 ครั้ง ที่วิลล่า ปาร์ค แต่เป็น คาริม เอล อาห์มาดี้, เลอันโดร บาคูน่า และอันเดรียส ไวมันน์ ยิงช่วยให้ทีมเจ้าบ้านพลิกกลับมาคว้าชัยชนะไปได้
ส่วนทีมเชลซี ก็บุกไปเสมอกับสเปอร์ ที่ไวท์ ฮาร์ท เลน ในคู่ก่อนเพื่อนเมื่อวันเสาร์ กับทำประตูของกิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน และเป็นการโขกของจอห์น เทอร์รี่ ที่ช่วยให้ทีมแบ่งแต้มไปได้สำเร็จ
ขณะที่อาร์เซน่อล ได้รับผลประโยชน์ไปเต็ม ๆ จากการทำคะแนนหลุดมือของคู่แข่ง และพวกเขาสามารถบุกไปชนะสวอนซีมาได้ 2-1 ประตู
โดยที่ เซอร์เก้ กนาบรี้ และแอรอน แรมซี่ ช่วยกันซัดคนละประตูให้ อาร์แซน เวนเกอร์ ที่ลิเบอร์ตี้ สเตเดี้ยม และ เบน เดวี่ส์ มาซัดวอลเลย์ให้ทีมเจ้าบ้านในช่วงท้ายเกมแต่ก็สายเกินไป
ปัจจุบันเดอะ กันเนอร์ส ขึ้นไปเป็นจ่าฝูงกับ 15 คะแนน จาก 6 เกม โดยมี สเปอร์ ตามหลังอยู่ 2 คะแนน และเชลซี กับเซาแธมป์ตัน ที่เอาชนะคริสตัล พาเลช 2-0 มี 11 แต้ม ส่วนแมนเชสเตอร์ ซิตี้ รั้งอันดับ 5
และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดร่วงไปอยู่อันดับที่ 12 ของตาราง
ลิงค์สำรอง ดาฟาเบท