เดส์ชองส์ ชี้ สภาพจิตใจที่แข็งแกร่งคือจุดแข็งของทีมชาติฝรั่งเศส


ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์ ผู้จัดการทีมชาติฝรั่งเศส ได้รับการยกย่องจากนักเตะหลังจากที่พาทีมเอาชนะ โครเอเชีย 4-2 ในฟุตบอลโลก 2018 รอบชิงชนะเลิศที่รัสเซีย โดย นายใหญ่ทัพ เลส์ เบลอส์ รู้สึกว่านี้ไม่ได้แบบผลงานที่มีคุณภาพเหมือนเมื่อก่อน แต่ด้วยสภาพจิตใจที่แข็งแกร่งก็เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จ

เดส์ชองส์ กลายเป็นคนที่สามที่สามารถคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก ในฐานะนักเตะและผู้จัดการทีม หลังจากที่ทีมชาติฝรั่งเศส คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกปี 1998 ต่อจาก มาริโอ ซากัลโล่ ของ บราซิล และ ฟร้าน เบคเคนเบาเออร์ ของ เยอรมัน
เดส์ชองส์ กล่าวผ่านสื่อว่า “นี่ไม่ใช่ชัยชนะของผม แต่เป็นชัยชนะของผู้เล่น”

เกมดังกล่าว มาริโอ มานด์ซูคิช ทำเข้าประตูให้ ฝรั่งเศสออกนำ ก่อนที่ อีวาน เปริซิช จะมาทำประตูตีเสมอ และเป็น อองตวน กรีซมันน์ ที่สังหารจุดโทษให้ ฝรั่งเศส ออกนำ 2-1 ในครึ่งแรก

ครึ่งหลัง ปอล ป็อกบา และ คีเลียน เอ็มบัปเป้ ช่วยใส่สกอร์คนละลูก ให้ฝรั่งเศสออกนำห่าง 4-1 และโครเอเชีย มาได้ประตูปลอบในจาก มาริโอ มานด์ซูคิช จบเกม ฝรั่งเศสคว้าแชมป์โลกไปด้วยสกอร์ 4-2

โดย เดส์ชองส์ กล่าวผ่านสื่อว่า “เราสมควรจะได้รับรางวัล หลังจากที่เราผิดหวังใน ยูโร 2016 ที่เราเป็นเจ้าภาพ หลอกหลอนเรามาตลอดสองปี

“เราไม่ได้เล่นเกมใหญ่ แต่พวกเราก็แสดงให้เห็นถึงสภาพจิตใจที่แข็งแกร่ง และเราทำได้ 4 ประตู มันเป็นเวลาที่ยาวนานกว่า 55 วันสำหรับการทำงานหนัก เราภูมิใจที่ได้เป็นคนฝรั่งเศส”

“พวกเราทำงานกันหนัก และมีช่วงเวลาที่ยากลำบากที่พลาดการคว้าแชมปป์ ยูโร 2016 เมื่อสองปีก่อน แต่มันก็ทำให้เราเรียนรู้”

เดส์ชองส์ กล่าวเสริมถึง เอ็มบัปเป้ ว่า “เขาเป็นนักเตะดาวรุ่งประจำรายการ อยู่ในทีมที่มีอายุน้อยและเขาก็อยู่ในจุดสูงสุดของโลก ซึ่งบางคนก็เป็นแชมป์ในอายุ 19 ปี”

ทั้งนี้ ฝรั่งเศส มีอัตราที่จะคว้าแชมป์ ยูโร 2020 แทง 1 จ่าย 5.00 เท่า ขณะที่ โครเอเชีย จะคว้าแชมป์ แทง 1 จ่าย 19.00 เท่า

Leave a comment