คูบราท ปูเลฟ (28-1, 14 KOs) พูดว่าเขาจะต่อยให้ดีในวันเสาร์ที่ 12 ธันวาคมเมื่อต้องเผชิญหน้ากับ แอนโธนี่ย์ โจชัว แชมป์เฮฟวี่เวท (23-1, 21 KOs) ที่สนามเวมบลี่ย์ อารีน่าในเมืองลอนดอน

ทั้งสองคนปัจจุบันอยู่ในสิ่งอำนวยความสะดวกบับเบิ้ลในขณะที่พวกเขาเตรียมตัวสำหรับหนึ่งในไฟท์ที่หนักที่สุดของปี โจชัวมีแชมป์ 3 รายการ WBA, WBO, และ IBF และเขาก็มีโอกาสที่จะในการเจอกับ ไทสัน ฟิวรี่ เพื่อชิงตำแหน่ง WBC โอกาสของปูเลฟจะสดใสทันทีถ้าเอาชนะโจชัวได้

ปูเลฟอธิบายว่าเอเจเป็นนักสู้ที่จะพลาดไม่ได้ในการชกและสิ่งที่จะทำให้การชกในวันเสาร์นี้สำคัญที่สุดคือเขาจะต่อยได้ดีแค่ไหนในการเจอกับคู่แข่ง โจชัวเจ็บปวดกับความพ่ายแพ้ครั้งแรกในอาชีพเมื่อเดือนมิถุนายน 2019 เสีย 3 แชมป์ให้กับ แอนดี้ รุยซ์ จูเนียร์ ต่อมาเขาก็ได้แชมป์กลับมาครองในการรีแมตช์และได้รับตั๋วในการต่อยแบบ unification ทว่าก่อนอื่นเขาจะต้องเอาชนะปูเลฟให้ได้เสียก่อน โจชัวมีอะไรมากมายที่จะทำให้เขาแพ้เกมนี้ไม่ได้

แต่ทั้งหมดนั้นไม่มีความหมายอะไรสำหรับปูเลฟที่มุ่งมั่นจะสร้างสถิติในวันเสาร์ด้วยการเป็นนักชกบัลแกเรียคนแรกที่ได้แชมป์เฮฟวี่เวท “ไฟท์นี้ไม่ใช่เพื่อผมเท่านั้น ไม่ใช่เพื่อการต่อยมวย มันเพื่อบัลแกเรียทั้งประเทศ ไม่มีใครจากประเทศผมเคยเป็นแชมป์เฮฟวี่เวทโลก” เขาพูดขณะที่พูดกับนักข่าวในวันอังคาร เขาพูดด้วยว่าเขามองในแง่ดีว่าตัวเองจะเป็นคนที่ได้เผชิญหน้ากับฟิวรี่ในแมตช์ unification หลังจากเอาชนะโจชัวแล้ว “ผมคิดว่าหลังไฟท์นี้ผมจะสู้กับไทสัน ฟิวรี่ ผมไม่เชื่อว่าไฟท์โจชัวกับฟิวรี่จะเกิดขึ้นเพราะผมจะชนะในคืนวันเสาร์ ผมคิดว่าโลกต้องการแชมป์โลกคนใหม่อย่างผม ผมคือแชมป์โลกคนใหม่”

ปูเลฟมีสถิติชนะเท่ากับโจชัวคือแพ้ไฟท์เดียวในการชกอาชีพเมื่อเขาโดน วลาดิเมียร์ คลิทเชนโก้ น็อคในปี 2014 แต่เขาเชื่อว่าเขาได้รับประสบการณ์มากจากไฟท์นั้นและเขาจะกลายเป็น “คูบราท ปูเลฟ คนใหม่” สำหรับปูเลฟ บัลลังค์ของโจชัวในการเป็นแชมป์จบลงแล้วเพราะโลกต้องการแชมป์คนใหม่ เป็นตำแหน่งที่เขาพร้อมจะรับไว้

อย่างไรก็ตามการชกครั้งนี้มีสัญญาการรีแมตช์แนบไว้ด้วย หมายความว่าใครก็ตามที่แพ้ไฟท์นี้มีสิทธิ์ที่จะเรียกร้องแก้มือภายในช่วงเวลาที่กำหนดไว้ นี่หมายความว่าเราจะได้เห็นปูเลฟและโจชัวต่อยกันครั้งที่สองเวลาใดเวลาหนึ่งในปีหน้า