ลอสแองเจลีส เลเกอร์ส คว้าชัยเหนือ ออร์แลนโด้ แมจิค ได้สำเร็จในวันอังคารที่ผ่านมาหลังจากเพิ่งเอาชนะ โกลเด้น สเตท วอร์ริเออร์ส ได้สำเร็จ

โดยเลเกอร์สเอาชนะไปเพียงแค่ 12 ครั้งก่อนที่จะลงแข่งกับวอริเออร์ส และชัยชนะครั้งนี้ถือเป็น 1 ในเหตุการณ์พลิกล็อคที่สุดในประวัติศาสตร์เอ็นบีเอ

และในเกมต่อมาที่พบกับแมจิคหลายต่อหลายคนก็คาดการณ์ว่าพวกเขาน่าจะคืนฟอร์มเดิม แต่ลูกทีมของ ไบรอน สก็อตต์ กลับสามารถเอาชนะไปได้ 107-98 ซึ่งปัจจัยหลักที่ช่วยให้พวกเขาคว้าชัยคือการกระหน่ำทำคะแนนในควอเตอร์ที่ 3

โดยออร์แลนโด้เป็นฝ่ายออกนำไปก่อน แต่เลเกอร์สก็สามารถคว้าชัยนัดที่ 2 ติดต่อกันได้ และทำให้ความหวังในการเข้าไปเล่นเพลย์ออฟของแมจิคเลือนลางลงไปทุกที

แม้ โคบี้ ไบรอันท์ จะฝืนอาการบาดเจ็บไหล่ลงสนามในเกมกับโกลเด้นสเตทได้ แต่ในนัดต่อมากับแมจิคเขาเลือกที่จะไม่เสี่ยงลงแข่ง

และเพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆก็ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าพวกเขาสามารถเป็นทีมที่แกร่งขึ้นได้ในฤดูกาลหน้าที่จะไม่มีโคบี้ เนื่องจากซีซั่นนี้จะเป็นปีสุดท้ายที่เจ้าของแชมป์เอ็นบีเอ 5 สมัยจะลงเล่น

จูเลียส แรนเดิ้ล พาวเวอร์ฟอร์เวิร์ดวัย 21 ปีของทีมทำดับเบิ้ล-ดับเบิ้ลด้วยสถิติ 23 แต้ม 11 รีบาวด์ และเขาออกมาเผยว่าการที่ทีมเอาชนะต่อเนื่องจากการปราบทีมแชมป์เก่าถือเป็นสิ่งสำคัญมาก

แรนเดิ้ลเผยผ่านอีเอสพีเอ็นว่า “เราต้องแสดงให้เห็นว่าเราเติบโตขึ้น และไม่พอใจกับชัยชนะเพียงนัดเดียว จนสามารถทำผลงานดีและคว้าชัยนัดต่อไปได้”

คาดกันว่าหัวใจหลักของเลเกอร์สยุคต่อไปจะเป็นการประสานงานของ ดิแองเจโล่ รัสเซลล์ และ จอร์แดน คลาร์กสัน

โดยรัสเซลล์วัย 20 ปีเป็นผู้ทำคะแนนสูงสุดด้วย 27 แต้ม และคลาร์กสันวัย 23 ปีทำได้ 24 แต้ม

ทั้งนี้เลเกอร์สน่าจะหมดหวังในการเข้าไปเล่นเพลย์ออฟฤดูกาลนี้แล้ว เนื่องจากขณะนี้พวกเขามีสถิติชนะเพียง 14 นัด รั้งอันดับสุดท้ายของสายตะวันตกและตามหลัง ฟินิกซ์ ซันส์ ทีมอันดับถัดมาอยู่ที่ 3 เกม

อย่างไรก็ตามชัยชนะเหนือออร์แลนโด้กับโกลเด้นสเตทแสดงให้เห็นว่าพวกเขามีฝีมือพอตัว และดาวรุ่งในทีมก็ค่อยๆฉายแววมากยิ่งขึ้น และเริ่มจะกลับมาเป็นทีมแกร่งอีกครั้งหลังจากกราฟดิ่งเหวมาหลายปี

ทั้งนี้โกลเด้นสเตทมีโอกาสป้องกันแชมป์เอ็นบีเอที่เรท 1.91