“เฟร์เรร์”พลิกเขี่ย “นาดาล” ร่วงรอบรองศึกปารีส มาสเตอร์

David-Ferrer-v-Rafael-Nadal-Paris-Masters

แชร์โพสต์นี้






เคลมโบนัสตอนนี้
รับ 100% สูงสุด 1,000
บาท โบนัสเติมเงิน ครั้งแรก

เดบิด เฟร์เรร์ พิสูจน์ให้เห็นว่า เขาจะไม่มีพร้อมที่จะคว้าแชมป์ในรายการปารีส มาสเตอร์ หากปราศจากการต่อสู้ หลังจากที่เขาพลิกล็อคหวดเอาชนะนักหวดหมายเลข 1 ของโลกอย่างราฟาเอล นาดาล ไปได้อย่างสวยงาม 2 เซ็ตรวด โดยจะผ่านเข้าไปพบกับ โนวัค ยอโควิช ในรอบชิงชนะเลิศต่อไป

เฟร์เรร์ ได้ไขความกระจ่างข้อส่งสัยของเขาอีกครั้ง ในการคว้าชัยชนะเหนือเพื่อนร่วมชาติของเขาไปได้ กับการพ่ายแพ้ติดต่อกัน 9 ครั้งในการพบกับนาดาล และทำสถิติเฮด ทู เฮด เป็น 5-20

โดยที่เฟร์เรร์ ออกสตาร์ทได้ดีด้วยการเบรกเกมเสิรฟได้ในเกมที่ 10 ซึ่งพิสูจน์ว่ามันเพียงพอที่จะคว้าชัยชนะไปได้ ขณะที่เดียวกันก็สามารถเบรกเกมเสิร์ฟอีกครั้งในช่วงต้นเซ้ตที่ 2

ขณะที่ นาดาล ก็พยายามกลับมาจนขยับมาอยู่ที่ 5-5 หลังจากที่คู่แข่งของเขาเสิรฟได้ไม่ดีนัก แต่ เฟร์เรร์ ก็สามารถเบรคเกมเสิร์ฟของเขาได้ และอาศัยความผิดพลาดนี้ของนาดาล เอาชนะไปได้ สองเซ็ตรวด 6-3 และ 7-5

ทั้งนี้ นาดาล เข้ามาร่วมการแข่งขันในครั้งนี้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2009 และก็ไม่สามารถคว้าแชมป์ไปได้ หลังจากที่ตีพลาด 25 ครั้ง ในเกมนี้ และเบรกเกมเสิร์ฟได้เพียง 1 ครั้งจาก 7 ครั้งของคู่แข่งเท่านั้น

โดย แชมป์รายการเฟรนซ์ และ ยูเอส โอเพ่น 2013 ยอมรับว่า เขาจำเป็นต้องปรับปรุง แต่เขาจะพัฒนา เพื่อไม่ให้มีจุดอ่อนในการเล่นในรายการ เอทีพี ทัวร์ ไฟน่อล ในการที่จะแก้แค้นกับเฟร์เรร์ ในการแข่งขันในครั้งนั้น

“ ผมจำเป็นต้องเคลื่อนที่เร็วกว่านี้ เพราะในเกมที่ผ่านมาผมช้ามาก” นาดาลสะท้อนถึงการแข่งขันดังกล่าว “ผมรู้สึกว่าผมมักจะช้ากว่าบอลเสมอ”

“ขณะที่ดาบิด เขาเร็ว และเขาเล่นในคอร์ท และกดดันคุณตลอดเวลา ถ้าผมเคลื่อนที่ได้ดีกว่านี้ ผมจะมีโอกาสในการตีบอลได้และเร็ว และเล่นกับข้อผิดพลาดที่น้อยกล่าว”

“เมื่อเขาเล่นได้ดี เขาจะเป็นคนที่อันตรายมาก ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเกมนี้ เพราะมันเป็นเกมที่เลวร้ายที่สุดาสำหรับผม”

ทั้งนี้ปัจจุบัน นาดาล สามารถโฟกัสไปยังการลงเล่นในศึก เอทีพี ทัวร์ ไฟน่อล ในสัปดาห์หน้าที่ลอนดอน ที่สนาม โอทู อารีน่า โดยเขาจะต้องเผชิญหน้ากับ โทมัส เบอร์ดิช และ สตานิสลาส วาวรินก้า ในกลุ่มเอ ขณะที่กลุ่มอื่น ๆ ประกอบด้วย โนวัค ยอโควิช, โรเจอร์ เฟดเดอเรอร์, ฮวน มาร์ติน เดล ปอโตร และ ริชาร์ด กาสเกต์

Leave a comment