ลีโอเนล เมสซี่ กองหน้าซุปเปอร์สตาร์บาร์เซโลน่า ผงาดคว้ารางวัล เดอะ เบสต์ ฟีฟ่า เมนส์ เพลเยอร์ หรือนักเตะยอดเยี่ยมของฟีฟ่าประจำปี 2019 ได้สำเร็จ ด้วยการเอาชนะคู่แข่งอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซูเปอร์สตาร์ ยูเวนตุส และ เฟอร์จิล ฟาน ไดจ์ กองหลัง ลิเวอร์พูล

หัวหอกทีมชาติอาร์เจนตินามีชื่อเข้าชิงรางวัลอันทรงเกียรติดังกล่าวร่วมกับ โรนัลโด้ และ ฟาน ไดจ์ ซึ่งทีแรกหลายฝ่ายมองว่าปราการหลังจากหงส์แดงคือตัวเต็งที่น่าจะซิวรางวัลนี้ไปครอง เนื่องจากมีผลงานที่โดดเด่นมาก อีกทั้งยังมีส่วนสำคัญมากที่ช่วยให้ลิเวอร์พูบนั้นคว้าแชมป์ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ไปครองได้ หลังจากเพิ่งจะคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำปีของยูฟ่ามาในเดือนที่แล้ว

หลังทราบผลการประกาศรางวัล บรรดาสื่อเมืองผู้ดีค่อนข้างช็อกไปตามๆ กันที่เซ็นเตอร์แบ็กทีมชาติเนเธอร์แลนด์ชวดรางวัลนี้ โดยเป็น เมสซี่ ที่เข้าวินได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของฟีฟ่าเป็นสมัยที่ 6 แล้ว ส่วน ฟาน ไดจ์ เข้าวินมาเป็นอันดับสอง และ โรนัลโด้ ซึ่งไม่ได้มาร่วมงานดังกล่าวได้อันดับสามตามลำดับ

อย่างไรก็ตามทางด้านหงส์แดง ลิเวอร์พูล ก็ใช่ว่าจะพลาดรางวัลในครั้งนี้ เมื่อ เยอร์เก้น คล็อปป์ คว้ารางวัลกุนซือยอดเยี่ยมแห่งปีของฟีฟ่า ขณะที่ อาลีสซง เบ็คเกอร์ ก็ได้รางวัลผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมแห่งปีของฟีฟ่าด้วย ซึ่งถือว่าทั้ง 2 นั้นเหมาะสมกับรางวัลที่ได้รับแบบที่แฟนบอลทั่วโลกยอมรับ

สตาร์ทีมชาติอาร์เจนตินา ได้พาครอบครัวทั้งภรรยาและลูก 2 คนทั้ง มาเตโอ และ ติอาโก้ ขึ้นเวทีรับรางวัลด้วย ขาดเพียงลูกคนเล็กอย่างเจ้าหนู ซีโร่ โดยเขาได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “การมีพวกเขามาร่วมสนุกที่นี่ด้วยเป็นสิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้เนื่องจากพวกเขารักฟุตบอลและก็กวาดตามองทุกๆ คนที่อยู่รายรอบด้วยความเขินอาย”
“สำหรับผม รางวัลส่วนตัวคือเป้าหมายรอง เป้าหมายแรกคือทีม แต่วันนี้ก็เป็นวันที่พิเศษสำหรับผม ผมมีภรรยาและลูกๆ มาที่นี่ด้วย เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้มาร่วมงาน”

นอกเหนือจากรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำปีของฟีฟ่าที่ให้เป็นรางวัลเดี่ยวๆ แล้ว ในงานยังมีการประกาศรายชื่อทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของฟีฟ่าอีกด้วย ซึ่งรายชื่อของเหล่านักเตะที่ติดทีมสุดยอดนักเตะประจำปี 2019 ของฟีฟ่ามีดังนี้

ผู้รักษาประตู : อาลีสซง เบ็คเกอร์ (ลิเวอร์พูล/บราซิล)

กองหลัง : เซร์คิโอ รามอส (เรอัล มาดริด/สเปน), มัทไธส์ เดอ ลิกท์ (ยูเวนตุส/ฮอลแลนด์), เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ (ลิเวอร์พูล/ฮอลแลนด์), มาร์เซโลน่า (เรอัล มาดริด/บราซิล)

กองกลาง : เฟร้งกี้ เดอ ย็อง (บาร์เซโลน่า/ฮอลแลนด์), ลูก้า โมดริช (เรอัล มาดริด/โครเอเชีย), เอแด็น อาซาร์ (เรอัล มาดริด/เบลเยียม)

กองหน้า : ลิโอเนล เมสซี่ (บาร์เซโลน่า/อาร์เจนตินา), คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (ยูเวนตุส/โปรตุเกส), คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ (ปารีส แซงต์-แชร์กแมง/ฝรั่งเศส)

และรางวัลอื่นๆ ที่ประกาศในงานนี้ที่เหลือก็คือ

นักเตะชายยอดเยี่ยมแห่งปี : ลิโอเนล เมสซี่ (บาร์เซโลน่า/อาร์เจนตินา)
นักเตะหญิงยอดเยี่ยมแห่งปี : เมแกน ราปิโน่ (เรนจ์ เอฟซี/สหรัฐฯ)

โค้ชชายยอดเยี่ยมแห่งปี : เจอร์เก้น คล็อปป์ (ลิเวอร์พูล)

โค้ชหญิงยอดเยี่ยมแห่งปี : จิลล์ เอลลิส (สหรัฐฯ)

ผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมแห่งปี : อาลีสซง เบ็คเกอร์ (ลิเวอร์พูล/บราซิล)

รางวัลแฟร์เพลย์ : มาร์เซโล่ บีเอลซ่า (ลีดส์ ยูไนเต็ด)

ทำประตูยอดเยี่ยมแห่งปี (ปุสกัน อวอร์ด) : ดาเนี่ยล โซรี่ (เดเบรเซ่/ฮังการี, ยิงในเกมพบกับ เฟเรซ์วารอส)