โรเมลู ลูกากู ทำประตูที่สามของเขาในสามนัดขณะที่เบลเยียมรักษาสถิติ 100% ในรอบแบ่งกลุ่มของการแข่งขัน

หลังจากเอาชนะรัสเซีย 3-0 ในเกมเปิดที่ลูกากูเปิดสกอร์ เขายังอยู่ในใบบันทึกคะแนนในเกมที่สองที่พวกเขาเอาชนะเดนมาร์ก 2-1 ในชัยชนะคัมแบ็กที่ลูกากูทำประตูชัย

ฟินแลนด์ ตั้งรับได้ดีแต่เกือบมีเสียประตูในนาทีที่ 65 โดน ลูกากู ยิงเข้าไป แต่โชคดีที่ VAR จับว่าล้ำหน้า

อย่างไรก็ตาม นาทีที่ 74 ลูคัส ราเด็คกี้ ทำเข้าประตูตัวเอง ให้เบลเยียมขึ้นนำในนาทีที่ 74 และ โรเมลู ลูกากู มายิงเพิ่มในนาทีที่ 81 ช่วย เบลเยียม เอาชนะไปได้ 2-0 พร้อมกับทำสถิติชนะ 100 เปอร์เซน ในรอบแบ่งกลุ่ม ยิงได้ 7 เสียแค่ประตูเดียว

ขณะที่ เนเธอร์แลนด์ก็ทำสถิติชนะ 100 เปอร์เซน ในรอบแบ่งกลุ่มหลังจากเอาชนะมาซิโดเนียเหนือ 3-0 ในเย็นวันจันทร์

เมมฟิส เดปายทำประตูในนาทีที่ 24 และ จินี่ ไวจ์นัลดุม มาทำประตูได้ในครึ่งหลัง ชัยชนะดังกล่าวทำให้เนเธอร์แลนด์มีเก้าแต้ม หลังจากเอาชนะยูเครน 3-2 ในเกมแรกและเอาชนะออสเตรีย 2-0 ในเกมที่สอง

ในขณะเดียวกัน ออสเตรียและเดนมาร์กต่างก็เข้าร่วมเนเธอร์แลนด์และเบลเยียมตามลำดับในรอบต่อไปในฐานะรองชนะเลิศในกลุ่ม B และ C

ชาวออสเตรียชนะยูเครน 1-0 ในขณะที่เดนมาร์กชนะรัสเซีย 4-1 อย่างอารมณ์ดีเพื่อเลื่อนขึ้นเป็นอันดับสองและผ่านเข้ารอบโดยอัตโนมัติ ขณะที่คู่หูของยูเครนและฟินแลนด์จะต้องรอดูว่าจะคืบหน้าหรือไม่ขึ้นอยู่กับผลการแข่งขันจากกลุ่มอื่น

ตอนนี้อิตาลีจะพบกับออสเตรียในรอบต่อไปในขณะที่เวลส์จะพบกับเดนมาร์ก