อาร์เซนอล รอต้อนรับทีมที่ยังไม่เคยแพ้ใครในลีก อย่าง นาโปลี ในถิ่นของพวกเขา เอมิเรตส์ สเตเดียม ในวันอังคารนี้เพื่อที่จะก้าวเข้าสู่รอบต่อไปของแชมเปี้ยนส์ลีก

การแข่งขันในครั้งเป็นการโคจรมาเจอกันของทีมกลุ่ม F ซึ่งทำผลงานในช่วงเปิดฤดูกาลในลีกของตัวเองได้ดีทั้งคู่ ซึ่งทีมปีนใหญ่ชนะมา 5 นัด นับตั้งแต่นัดเปิดสนามที่ชนะ แอสตัน วิลล่า ขณะที่ทีมคู่แข่งจากอิตาลีก็ยังไม่แพ้ใครมา 6 นัด ในศึกกัลป์โซ่ ซีรี่ยส์ A ของพวกเขา ซึ่งนับว่าเป็นสถิติที่ชนะ 100%

โดยทั้ง 2 ทีม เคยเสมอกันมา 2-2 ในนัดที่เจอกันในช่วงปรี ซีซั่น ซึ่่งกุนซือของทีมอาร์เซนอล อาร์แซน เวงเกอร์ รู้ดีว่านี่จะเป็นเกมที่หนักที่สุดเท่าที่เล่นมาในฤดูกาลนี้ และเช่นเดียวกับกุนซือของนาโปลี ราฟา เบนิเตซ ที่ได้เรียนรู้และได้รับบทเรียนในการไปเยือนถิ่นลอนดอนมาแล้ว เมื่อครั้งที่เคยคุมทีม ลิเวอร์พูล และ เชลซี

โดยที่ แวงเกอร์ สั่งจับตา ลอเรนโซ อินซินเญ่ ซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นตัวอันตรายอีกรายของทีม

“เขาเป็นตัวขับเคลื่อน เขาไม่สูงแต่ก็เร็วมากและเก่งมากจากการป้องกันมาเป็นโจมตี” เวงเกอร์กล่าว

“เขาเคลื่อนไหวได้ดี และอย่างชาญฉลาดด้วย ซึ่งนั่นทำให้เขาน่าสนใจ”

“นั่นเป็นสิ่งที่สะดุดตา ตั้งแต่เกมในเอมเรตส์คัพ เมื่อพวกเขาถึงบอลพวกเขาจะออกตัวเร็วมาก ทั้ง กาซิยอง, แฮมซิค, อินซินเญ่ และ ฮีกัวอิน พวกเขาเหมือนลูกระเบิดตลอดเวลาเมื่อถึงบอล”

“การส่งผ่านจากการรุกเป็นรับทำได้อย่างรวดเร็วมาก”

ทั้งนี้ นัดที่ผ่านมา อาร์เซนอลเอาชนะโอลิมปิก มาร์กเซย ไป 2-1 ที่ฝรั่งเศส นัดเปิดการแข่งขันในกลุ่ม F ในขณะที่ นาโปลีก็เอาชนะทีมคู่ชิงชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ลีกเมื่อปีที่แล้ว อย่าง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์มาได้ 2-1

โดยเวงเกอร์จะไม่มี ธีโอ วัลคอตต์ เนื่องจากพักรักษาตัวจากการผ่าตัดช่องท้อง ในขณะที่ อาบู ดิอาบี, ลูคัส โพดอลสกี้ และ อเล็กซ์ อ๊อกซ์เลด ซัมเบอร์แลน ก็ไม่ได้ลงเล่นในนัดนี้ แต่ อารอน แรมซีย์ ผู้ซึ่งทำประตู 8 ประตู จาก 9 นัด หลังสุด พร้อมกับ เมซุต โอซิล จะลงสนามสร้างความปั่นป่วนให้กับกองหลังของนาโปลี

ขณะเดียวกัน บานิเตซ ก็มีทีมที่แข็งแกร่ง และยังสามารถชนะทีมใหญ่อย่างเจนัวไป 2-0 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

“ผมมีความมั่นใจมากกว่าความกล้า ผมมีประสบการณ์หลาย ๆ ครั้งในยุโรป ดังนั้นผมรู้ดีว่าการหมุนเวียนลูกทีม เป็นสิ่งจำเป็นที่ทำให้ทุกคนในทีมแข็งแกร่งขึ้น” เขากล่าว